BenzSociety ศูนย์รวมพลคนรัก Benz

                                  www.benzsociety.com
 
HomeBenz ShoppingBenzSociety ShowBenz Option ClassifiedsWebboardOffice
Import CarsShow RoomCar Service •  Wheels & Tires  •  Car stereoHome/CondoGolf Society Benz TravelEntertainment
          » แนะนำ Benz รุ่นใหม่..ขณะนี้ » MERCEDES-BENZ SLK 20...


  MERCEDES-BENZ SLK 200
    [ 23/01/2009 ] - [ 3808 ]
 

MERCEDES-BENZ SLK 200 Kompressor
ลุ้คใหม่ของโรดสเตอร์ยอดนิยม

ที่มา  นิตยสารกรังด์ปรีซ์
ฉบับที่ 466
ประจำเดือน ตุลาคม  2551    
 
Road Impression บรรณาธิการ : กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์ ภาพ : สุวัฒ

     หากจะมองหารถยนต์ในสไตล์สปอร์ตสักคันที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการขับขี่ในเมืองของวันทำงาน ไปจน ถึงการท่องเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดแล้วนั้น ในบ้านเราก็คงจะมีให้เลือกอยู่ไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่รถในกลุ่มนี้มักจะ เป็นรถนำเข้า จาก ต่างประเทศ ที่หลายๆ บริษัทไม่ค่อยจะนำเข้า ด้วยระดับราคาที่สูง ประกอบกับปริมาณความต้องการของตลาดที่อาจจะน้อย อันกลายเป็น ช่องว่างให้ผู้นำเข้าอิสระได้เจาะตลาดกลุ่มนี้

     ในบ้านเรารถในกลุ่มนี้ ถ้าโฟกัสเฉพาะที่มีการนำเข้าและจำหน่ายโดยบริษัทแม่กันแล้ว ก็คงจะมีทางเลือกอยู่เพียงแค่ไม่กี่คัน และหนึ่งใน กลุ่มนี้ที่นับได้ว่าค่อนข้างจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้รถในบ้านเรา เห็นทีจะหนีไม่พ้นยานยนต์จากค่ายดวงดาว เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่
สามารถสร้างกระแสตอบรับในรถแบบสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุน จนมีวิ่งกันเต็มท้องถนนบ้านเรา

     MERCEDES-BENZ SLK 200 Kompressorนับเป็นเจเนอเรชั่นที่สองของตระกูลSLKที่เปิดตัวออกสู่สายตาของคนทั่วโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์รถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่สามารถเปิดประทุนได้ ซึ่งในครั้งนี้ทางกรังด์ปรีซ์ได้นำ SLK โฉมใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งได้รับการ ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ในหลายส่วน ทั้งภายนอกและภายใน เริ่มตั้งแต่ ภาพลักษณ์ภายนอกของ SLK ใหม่ ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนลุ้คใหม่จาก กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่ดูคล้ายกับสปอร์ตพี่ใหญ่อย่าง SLR ไปจนถึงตัวกันชนหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ เพื่อให้รับกับดีไซน์ของ ตัวกระจัง หน้ารูปทรงธนู ไฟหน้าแบบไบซีนอน มาพร้อมกับระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering Light) ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ในการขับขี่ในยามค่ำคืน ในส่วนของด้านท้ายได้นำชุดไฟท้ายแบบสปอร์ตที่เคยใช้อยู่ในเวอร์ชั่นพิเศษอย่าง AMG ได้ถูกเพิ่มเติมเข้ามา รับกับแนวเส้นของกันชนหลังชุดใหม่ ที่เผยให้เห็นชุดท่อไอเสียแบบปลายคู่แยกซ้ายและขวา ตอบสนองต่อบุคลิกสไตล์สปอร์ตมากขึ้น

สปอร์ตขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น

     เติมเต็มความสปอร์ตให้กับภายในห้องโดยสารใหม่ กับชุดพวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้าน ที่นอกเหนือจากจะมีปุ่มควบคุม มัลติฟังก์ชัน ของชุดมาตรวัด ชุดเครื่องเสียง ไปจนถึงชุดโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังได้รับการเพิ่มเติมชุดแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบใหม่ ที่ได้รับการ ออกแบบให้เป็นตัวแป้นกดในบริเวณด้านหลังของก้านพวงมาลัยทั้งซ้ายและขวา โดย SLK ใหม่ นี้จะแบ่งการควบคุมชุดแป้นควบคุม ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบวันทัชใหม่ ให้การควบคุมการลดจังหวะเกียร์ลงด้วยปุ่มทางซ้าย และการควบคุมการเพิ่มจังหวะ เกียร์ขึ้นด้วย ปุ่มทางขวา

     ชุดเครื่องเสียงใหม่ที่ได้รับการเพิ่มเติมจอดิสเพลย์ตัวใหม่ที่สามารถแสดงผลได้ด้วยโทนสีที่มากขึ้น (จากเดิมที่เป็นแบบสีเดียว) สามารถเก็บแผ่นซีดีไว้พร้อมใช้งานได้ถึง 6 แผ่น พร้อมชุดลำโพงรอบคันที่ได้รับการจัดวางตำแหน่งเสียงมาเป็นอย่างดี สามารถให้ความ เพลิดเพลินได้ทั้งในยามที่ปิดและเปิดประทุน

     นอกจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในหลายๆ ด้านที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามาแล้ว SLK ใหม่ ยังได้เพิ่มฟังก์ชันควบคุมการเปิด-ปิด หลังคาด้วยกุญแจรีโมตมาให้อีก ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

เมื่อความ "เท่" และความ "สบาย" เดินทางเคียงคู่กัน


     ด้วยจุดเด่นของ SLK ที่ใช้หลังคาแข็งแบบเปิดประทุนได้นี่เอง ที่สามารถทำคะแนนในเรื่องของการเก็บเสียงได้ดี โดยเฉพาะเมื่อดูจาก ค่าตัวเลขของการวัดเสียงภายในห้องโดยสารของ SLK ขณะจอดอยู่กับที่นั้นสามารถทำได้ในระดับ 48.4 dB และ 64.4 dB ในขณะที่ เดินทางด้วยความเร็วคงที่ที่ 120 กม./ชม. ซึ่งเทียบเท่ากับรถนั่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ที่ทำเอาไว้ในการทดสอบครั้งก่อน ที่ระดับ 48.5 dB และ 64.6 dB เลยทีเดียว ซึ่งทำให้เห็นว่าเจ้าหลังคาแข็งแบบเปิดได้ของ SLK นั้น นอกจากจะให้ความโดดเด่น ในยาม ที่เปิด ประทุนแล้ว ในยามที่ใช้งานแบบปิดประทุนก็ยังคงให้ความสะดวกสบายในการใช้งานเฉกเช่นเดียวกับรถยนต์นั่งหรูทั่วไป อันเป็นเรื่องที่ แตกต่างจากการใช้หลังคาอ่อนของรถเปิดประทุนทั่วไป ที่มักจะมีข้อเสียในเรื่องของการเก็บเสียง และการส่งผ่านความร้อน ในยามที่ใช้ งานในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา

184 แรงม้าจากเครื่อง 1.8 ลิตร

      เครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 1.8 ลิตร ตัวเดิม (รหัส M271) ที่มาพร้อมกับระบบอัดอากาศแบบซูปเปอร์ชาร์จนั้น ได้รับการ ปรับ ปรุงในเรื่องของพละกำลังที่มากขึ้น โดยเครื่องยนต์ตัวนี้มีพละกำลังแรงม้าสูงสุดที่มากถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที โดยที่แรงบิด สูงสุดจำนวน 25.48 กก.-ม. นั้น มีมาให้ใช้งานกันตั้งแต่รอบเครื่องยนต์เพียงแค่ 2,800 รอบ เรื่อยไปจนถึง 5,000 รอบ/นาที เลยทีเดียว ช่วยให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ในการขับขี่มีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น สามารถเรียกกำลังของเครื่องยนต์มาให้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว

     ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ที่มาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองแบบวันทัช ยังคงตอบสนองต่อการใช้งานในแบบ ทั่วๆ ไปได้ดี ทั้งความต่อเนื่องและความนุ่มนวลในจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์ ในสไตล์ของเบนซ์ แต่อาจจะดูนิ่มนวลมากไป สำหรับผู้ที่ ชื่นชอบสไตล์สปอร์ตที่อาจจะต้องหันไปคบหากับรุ่นใหญ่เวอร์ชั่นพิเศษอย่าง SLK 55 AMG ที่รับรองว่าร้อนแรง เพียงพอแน่กับโรด สเตอร์ไซส์นี้

     ถึงแม้ SLK 200 Kom จะเป็นรุ่นเล็กสุดในตระกูล SLK แต่ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ 184 แรงม้า ที่มีมาให้ใช้งานกันในรอบ ที่ค่อน ข้างต่ำนั้น ก็เพียงพอต่อการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ยิ่งเมื่อมารวมกับขนาดของตัวรถที่กะทัดรัดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ SLK เป็นรถที่ ขับสนุกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงความเร็วไม่เกิน 140 นั้น SLK จัดได้ว่าเป็นรถที่ปราดเปรียวพอตัวเลยทีเดียว

     นอกเหนือจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการเพิ่มสมรรถนะขึ้นเป็น 184 แรงม้าแล้วนั้น ในเรื่องของการใช้งานในเมืองนั้น SLK ใหม่ ยังคงมา พร้อมกับความประหยัดในการขับขี่ ด้วยตัวเลขอัตราสิ้นเปลือง สำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจร หนาแน่นของบ้านเรา ที่สามารถ ทำได้ถึง 8.21 กม./ลิตร กับการขับขี่ใช้งานแบบทั่วๆ ไปในเมืองที่ต้องเจอกับรถติดสลับกับเคลื่อนตัวเรื่อยๆ ที่นับได้ว่าเป็นช่วงภาวะที่
ต้องใช้พลังงานของเครื่องยนต์ค่อนข้างมาก เพื่อจะออกตัวบ่อยๆ ครั้ง อันเป็นผลให้ตัวเลขความสิ้นเปลืองนั้น มากกว่าการขับขี่นอกเมือง แต่หากดูตัวเลขที่ได้จากการทดสอบกันแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า SLK ยังคงให้ความประหยัดได้มากพอตัวกับการขับขี่ในเมือง

     ส่วนการเดินทางนอกเมืองนั้น ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.8 ลิตร ที่ปลุกเสกพลังด้วยเวทมนตร์ของซูเปอร์ชาร์จ สามารถให้ความ ประหยัดในการใช้งานได้มาก จนสามารถทำตัวเลขของอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 11.63 กม./ลิตร กับการเดินทางที่ใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่แถวๆ 120 และด้วยความประหยัดแบบนี้เอง ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ SLK ยังคงเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่สามารถ ชนะใจ ผู้ใช้รถ ในบ้าน เราทั้งชายและหญิงได้มาก ดังที่เห็นจากปริมาณรถบนท้องถนนในบ้านเรา ณ ตอนนี้

ตารางทดสอบเสียง (เปิดแอร์)
สถานะ ปริมาณเสียงที่วัดได้ (dB)
จอดนิ่ง 48.4
เคลื่อนที่ (120 กม./ชม.) 64.4
ตารางทดสอบอัตราเร่ง (เปิดแอร์)
ประเภท เวลา (วินาที) ความเร็ว (กม./ชม.) ค่า G
0-402 ม. 17.7 138.3 -
0-100 กม./ชม. 10.4 100 -
ความเร็วเดินทางที่เกียร์สูงสุด
ความเร็ว (กม./ชม.) รอบ (รอบ/นาที)
100 2,250
120 2,750
140 3,250
160 3,750
ข้อมูลทางเทคนิค
ยี่ห้อและรุ่นรถ MERCEDES-BENZ SLK 200 Kompressor
ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี ประเทศเยอรมนี รุ่นปี 2008
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว ซูเปอร์ชาร์จ
ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.) 1,796
ลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที) 184/5,500
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที) 25.48/2,800-5,000
อัตราส่วนกำลังอัด 8.5 : 1
ถังเชื้อเพลิงจุ (ลิตร) 70
ระบบขับเคลื่อน ล้อหลัง
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ระบบพวงมาลัย พวงมาลัยเพาเวอร์ แบบแปรผันตามความเร็ว (Speed-sensitive power steering)
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แบบแขนยึด 3 จุด พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง อิสระ แบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก/ดิสก์เบรก
ระบบความปลอดภัย ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบป้องกันการลื่นไถล (ESP) และระบบช่วยเบรก (BAS)
มิติ กว้าง x ยาว x สูง (มม.) 1,777 x 4,103 x 1,296
ฐานล้อยาว (มม.) 2,430

น้ำหนักรถ (กก.)
1,415
ล้อ ล้อแม็กขนาด 17"
ยาง (หน้า, หลัง) 225/45 R17 , 245/40 R17
ความเร็วสูงสุด (ตัวเลขโรงงาน) 232 กม./ชม.
อัตราความสิ้นเปลือง (กม./ลิตร)
ในเมือง 8.21
นอกเมือง 11.63
ราคาจำหน่าย 4,500,000 บาท

 
[ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ]                          
 


  รายการบทความ