การขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

ในวันที่น้ำมันเชื้อเพลิงมีการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องทั่วโลกเช่นนี้ หากเราไม่สามารถ
หยุดหรือเลิกใช้น้ำมันได้ การประหยัดคงเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ให้เราได้
สบายใจสบายเงินในกระเป๋ากันมากขึ้น การขับรถที่คุณใช้อยู่นั้นก็มีวิธีขับ
ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ได้ง่ายๆ ดังนี้

1. ขณะสตาร์ทรถ ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ ไฟหน้ารถ และเครื่องเสียง
จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เปลืองน้ำมัน 10%

2. ไม่อุ่นเครื่องยนต์ก่อนขับเคลื่อนตัวรถ เพียงขับเคลื่อนรถเบาๆ 1-2 ก.ม.
เครื่องยนต์จะอุ่นเอง ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์แล้วจอดอยู่กับที่ เพราะการติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 2 นาที สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี.

3. ไม่เบิ้ล ไม่บิดเครื่องยนต์ การเบิ้ลเครื่องยนต์ ขณะเกียร์ว่าง 10 ครั้ง ส่งผลให้
รถจักรยานยนต์ สิ้นเปลืองน้ำมัน 15 ซีซี., รถปิคอัพ รถตู้ รถแวน สิ้นเปลืองน้ำมัน
100 ซีซี. และรถบรรทุก สิ้นเปลืองน้ำมัน 300 ซีซี.

4. ขับรถระยะไกล ด้วยความเร็วคงที่ และไม่เกินป้ายจำกัดความเร็ว
อัตราความเร็วรถที่เหมาะสมที่จะประหยัดน้ำมันได้มากที่สุดคือ 60 - 80 ก.ม./ช.ม.
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถยนต์ที่ความเร็วต่างๆ กัน เปรียบเทียบได้ดังนี้
- ความเร็ว 95 ก.ม./ช.ม. จะสิ้นเปลืองน้ำมั่นกว่า 80 ก.ม./ช.ม. ประมาณ 15%
- ความเร็ว 110 ก.ม./ช.ม. จะสิ้นเปลืองน้ำมั่นกว่า 80 ก.ม./ช.ม. ประมาณ 29%
- ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. จะสิ้นเปลืองน้ำมั่นกว่า 90 ก.ม./ช.ม. ประมาณ 10%
- ความเร็ว 110 ก.ม./ช.ม. จะสิ้นเปลืองน้ำมั่นกว่า 90 ก.ม./ช.ม. ประมาณ 25%

5. ก่อนถึงไฟแดงชะลอความเร็วแต่เนิ่นๆ ด้วยการถอนคันเร่ง และค่อยเหยียบ
เบรก นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยยืดอายุผ้าเบรก

6. ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนถึงที่หมาย 2-3 นาที ประหยัดน้ำมันได้ 30 ซีซี. 

7. ขับ 91 เติม 91 เลือกเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนเหมาะสมกับเครื่องยนต์
การเติมน้ำมันออกเทน 95 ทั้งๆ ที่รถของคุณใช้ออกเทน 91 ได้ ทำให้คุณเสียเงินเพิ่ม
และไม่ช่วยให้เครื่องยนต์แรงขึ้น

8. สังเกตอาการผิดปกติของรถ ควันไอเสียมีสีดำ หรือขาวผิดปกติ เกิดจาก
การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์ มีผลให้สิ้นเปลืองน้ำมัน

9. ควรดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถคอย เพราะการติดเครื่องยนต์จอดรถ
เป็นเวลา 5 นาที จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 100 ซีซี.

10. เติมลมยางให้ถูกต้องตามกำหนด ถ้ายางอ่อนเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
เชื้อเพลิงมากขึ้น

นำมาฝากกันแค่เพียง 10 ข้อเท่านี้ และถ้าสนใจเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน
ในด้านอื่น ติดตามอ่านได้ในคู่มือที่ลิงค์ไว้ด้านล่าง หรือหากต้องการทราบข่าวสาร
เกี่ยวกับพลังงานในประเทศไทยสามารถอ่านได้ที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (http://www.eppo.go.th)

ที่มา : 
- หนังสือ การขับรถ และงานบำรุงรักษารถยนตร์ 
โดย ศิระ บุญธรรมกุล และพงษ์ศักดิ์ บุญธรรมกุล
- คู่มือแข่งขันประหยัดน้ำมัน รวมพลังหยุดรถซดน้ำมัน
โดย ศูนย์อนุรักษ์พลังงานแห่งประเทศไทย
- คู่มือประหยัดพลังงานเพื่อประชาชน โดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
กระทรวงพลังงาน

รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด

จากทางบ้านแนะนำ

ทุกวันนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า น้ำมันจำเป็นสำหรับทุกคน เพราะไม่ว่าจะเดินทางในตอนเช้าไม่ว่าผู้ที่มีรถส่วนตัวก็ดีก็ต้องเติมน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ หรือผู้ที่สัญจรไปมากับรถโดยสารประจำทางเองก็ดีก็ต้องจ่ายค่าโดยสารที่แพงขึ้นตามสภาวะราคาน้ำมันด้วย ดังนั้นเรามีวิธีประหยัดน้ำมันอย่างง่ายๆมาฝาก เพื่อเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าอีกทางหนึ่ง

เริ่มแรก วางแผนเดินทางก่อนขับ

ก่อนออกจากบ้านแต่ละครั้งนั้น เราควรวางแผนล่วงหน้าว่าที่ที่เราจะไปนั้น ควรใช้เส้นทางไหนที่จะใกล้ที่สุดและใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพราะบางครั้งเส้นทางที่เราจะไปนั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ เมื่อวานรถติดแต่วันนี้รถอาจจะไม่ติด ดังนั้นควรที่จะเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด มีสภาพการจราจรที่ไม่หนาแน่น และที่สำคัญที่สุดอย่าลืม "ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน" จะช่วยทำให้เราประหยัดทั้งน้ำมันและเวลาได้
เมื่อจอดรอ ควรดับเครื่อง

ในการอุ่นเครื่องหรือจอดรอไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนๆ รอเพื่อน รอแฟน หรือใครก็แล้วแต่ เวลาเพียงแค่ 5 นาที ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้ถึง 300 ซี ซี แถมยังเกิดไอเสียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ การอุ่นเครื่องก็ไม่จำเป็นสำหรับรถเมืองร้อนอย่างบ้านเรา เมื่อสตาร์ทรถเสร็จก็ออกรถและขับรถอย่างช้าๆใน 1-2 กม.แรก เครื่องยนต์จะอุ่นตัวของมันเอง ทำให้ไม่ต้องเสียน้ำมันโดยใช่เหตุ

จำไว้ว่า "ออกรถนิ่ม เบรกรถนุ่ม"

การออกรถในแต่ละครั้งนั้น วัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบออกตัวแรงๆ และเร็ว เพื่อที่จะโชว์สมรรถนะของเครื่องยนต์ แต่หารู้ไม่ว่าการออกตัวด้วยการกระชากแรงๆเพียง 10 ครั้งนั้น จะเสียน้ำมันฟรีๆ 100 ซี ซี ซึ่งน้ำมันแค่นี้อาจจะดูน้อยแต่มันก็สามารถทำให้รถวิ่งไปได้ถึง 700 เมตร ส่วนการขับรถในแต่ละครั้งนั้น เราควรทิ้งระยะห่างระหว่างรถเราและรถคันหน้าพอประมาณเพื่อที่ว่าเราจะได้มีระยะในการเบรกน้อยลง เพราะถ้าเราเบรกอย่างกระทันหันหรือเบรกบ่อย ๆ จะทำให้เครื่องยนต์ เครื่องส่งกำลัง ผ้าเบรกและยางรถยนต์ชำรุด สึกหรอเร็วขึ้น ในส่วนของระบบเบรกก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแล ยิ่งถ้าเป็นการขับรถในกรุงเทพฯ ยิ่งต้องให้ความเอาใจใส่มากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะรถในกรุงเทพฯมีจำนวนมาก เคลื่อนตัวไปได้นิดหน่อยก็ต้องเบรก
เร่งเครื่องเล่นๆ เปลืองนะ
พวกที่ชอบเร่งเครื่องเล่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถแข่งที่มักจะแต่งท่อไอเสียให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และเสียงดังขึ้น ก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า การเบิ้ลเครื่อง 10 ครั้งนั้นจะทำให้สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซี ซี ซึ่งน้ำมันขนาดนี้ก็ทำให้รถของเราวิ่งไปได้ไกล 350 เมตร

อย่า "ถนนแย่ น้ำมันยุบ"

สภาพถนนที่ไม่ดีก็สามารถทำให้เปลืองน้ำมันไดเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นถนนในชนบท ทุรกันดาร น้ำมันก็ย่อมหมดเร็วอย่างแน่นอน เพราะการขับรถในสภาพนั้น ทำให้เครืองยนต์ของรถทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะจะมีผลต่อระบบขับเคลื่อน ซึ่งการขับรถไปตามถนนลาดยางที่มีผิวถนนขรุขระทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน 15% ส่วนถนนลูกรังก็สิ้นเปลืองน้ำมันกว่า 30% และยังรวมไปถึงถนนที่เป็นทรายแห้งๆซึ่งทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 45% ถ้าเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงสภาพถนนแบบนี้ เพราะจะทำให้เราประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นทีเดียว

หมั่นดูแลเครื่องยนต์

หลายคนคงคิดว่า ระบบต่างๆภายในเครื่องยนต์เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก แต่จริงๆแล้ว ก็มีวิธีที่เราจะต้องดูแลเครื่องยนต์ของเราอย่างง่ายๆ เช่น ไส้กรองอากาศ เพราะว่าไส้กรองที่อุดตันหรือสกปรก จะทำให้รถวิ่งได้ระยะทางน้อยลงจำนวน 0.4 กม.ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ส่วนการทำความสะอาดไส้กรองนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เราเปิดกระโปรงหน้ารถและหากล่องสี่เหลี่ยม จากนั้นขันนอตออก นำไส้กรองออกมา ส่วนเครื่องมือที่ใช้ทำความสะอาดก็หาได้ในบ้านเราเอง คือ เครื่องดูดฝุ่น ที่จะใช้ดูดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามไส้กรองให้หมด เพียงเท่านี้ไส้กรองก็สะอาดและพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บรรทุกน้อย ค่อยประหยัด

รถแทบทุกคันเมื่อเปิดท้ายรถออกจะเห็นสัมภาระอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็น โดยที่เราอาจลืมนึกไปว่า การบรรทุกสิ่งของหนักโดยไม่จำเป็นประมาณ 25 ก.ก. โดยวิ่งไป 50 กม. จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน 20 ซี ซี และยังทำให้รถสึกหรอเร็วกว่าที่ควรด้วย สุดท้ายก็ควรตรวจเช็คลมยางให้อยู่ในสภาพตามที่มาตรฐานตั้งไว้ ถ้าลมยางอ่อนกว่าทุก 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์

การเติมน้ำมันแต่ละครั้งก็เหมือนเป็นการนำเงินออกนอกประเทศ เป็นการบั่นทอนชาติทางอ้อม ดังนั้นเราควรช่วยกันประหยัดน้ำมัน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย