BenzSociety ศูนย์รวมพลคนรัก Benz

                                  www.benzsociety.com
 
HomeBenz ShoppingBenzSociety ShowBenz Option ClassifiedsWebboardOffice
Import CarsShow RoomCar Service •  Wheels & Tires  •  Car stereoHome/CondoGolf Society Benz TravelEntertainment
          » ความเป็นมาของ Benz » พลิกปู...


  พลิกปูมตำนานเมอร์เซเดส-เบนซ์
    [ 3/03/2009 ] - [ 1844 ]
 

 พลิกปูมตำนานเมอร์เซเดส-เบนซ์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 เมษายน 2548 12:15 น.

คาร์ล เบนซ์ และ กอตต์ลีบ เดมเลอร์ คือผู้บุกเบิกแห่งโลกยนตรกรรม ทั้งคู่เป็นนักประดิษฐ์และพัฒนายานยนต์โดยต่างมีกิจการเป็นของตนเอง จนถึงช่วงศตวรรษที่ 1920 จึงได้รวมกิจการเป็นบริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ เอจี (Daimler-Benz AG) ผู้ผลิตรถคุณภาพในนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ เส้นทางนวัตกรรมของคนทั้งสองแม้จะเคียงคู่ขนานกันในหลายๆด้าน แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างที่ชัดเจน
       
       กอตต์ลีบ เดมเลอร์ คือผู้นำระบบสันดาปภายในมาสนองวิสัยทัศน์แห่งการขับขี่ขนส่ง ?ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ? โดยเริ่มทดสอบเครื่องยนต์พลังสูงเครื่องแรกของโลกในปี 1883 สองปีต่อมาเขาติดตั้งเครื่องยนต์นี้เข้ากับจักรยานซึ่งได้รับการดัดแปลง ผลลัพธ์ก็คือจักรยานยนต์คันแรกของโลก และอีกสามปีเขาก็ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ดังกล่าวเข้ากับตัวรถม้า นับเป็นรถยนต์สี่ล้อคันแรกในชีวิตนักประดิษฐ์ของเขา น่าเสียดายที่เดมเลอร์มีเวลาเหลือเพียงน้อยนิดก่อนอำลาโลกด้วยโรคหัวใจเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.1900


คาร์ล เบนซ์ เลือกเส้นทางยนตรกรรมที่แตกต่างจากเดมเลอร์ เขาถือว่าการสร้างรถยนต์จะต้องอาศัยหลักการที่แตกต่างจากระบบรถเทียมม้าโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงออกแบบยานยนต์ให้มีสามล้อติดตั้งเครื่องยนต์หนึ่งสูบในแนวนอน และได้จดทะเบียนสิทธิบัตรหมายเลข 37435 เมื่อวันที่ 19 มกราคม ค.ศ.1986 สิทธิบัตรฉบับนี้ก็คือ ?สูติบัตร? ของรถที่คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดนั่นเอง จำนวนรถที่ผลิตจากโรงงานของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อรถรุ่น ?เวโล? (Velo) เริ่มปรากฏโฉมโดยระหว่างปี 1894 ถึง 1901 ผลิตได้ถึง 1,200 คัน อาจกล่าวได้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เบนซ์มีชีวิตยืนยาวจนได้เห็นความฝันปรากฏเป็นจริงก่อนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.1929
       
       ทั้งสองได้ลงทุนพัฒนาธุรกิจส่วนตัวของแต่ละคน โดยเบนซ์ก่อตั้งบริษัทเบนซ์ & ซี (Benz & Cie.) เมื่อเดือนตุลาคมปี ค.ศ.1883 ที่เมืองมานน์ไฮม์ (Mannheim) ในขณะที่ บริษัทเดมเลอร์-มอร์ทัวร์เรน-เกเซลชาฟท์ (ดีเอ็มจี) (Daimler-Motoren-Gesellschaft (DMG) ก่อตั้งขึ้นที่เมืองคานน์สตัตท์ (Cannstatt) ในเดือนพศจิกายน ปีค.ศ.1890
       
       เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและรับรู้ของสาธารณชน แต่ละบริษัทได้พยายามเฟ้นหาเครื่องหมายการค้าอันเหมาะสมของตน ในตอนต้นชื่อของผู้สร้างรถยนต์ทั้ง เบนซ์ และ เดมเลอร์ ถือได้ว่ารับประกันคุณภาพ และความดั้งเดิมของเครื่องยนต์และตัวรถ เบนซ์ & ซี ยังคงใช้ชื่อเดิมเป็น เครื่องหมายการค้า ถึงแม้จะเปลี่ยนจากวงเกียร์ในตราเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ 1903 เป็นชื่อชัยพฤกษ์ล้อมรอบในปี ค.ศ 1909 แต่เมื่อย่างเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 เดมเลอร์-มอร์ทัวร์เรน-เกเซลชาฟท์ ก็นำชื่อ เมอร์เซเดส มาเป็นตราสินค้าของบริษัท

 เมอร์เซเดส เป็นภาษาสเปน หมายถึง ?ความสง่างาม? และเป็นชื่อลูกสาวของเอมิล เยลลิเน็ก เธอเกิดในปี ค.ศ. 1889 ส่วนเอมิลผู้พ่อนั้นเป็นนักธุรกิจใหญ่ชาวออสเตรีย ซึ่งมีบ้านอยู่ทั้งที่บาเด็น (Baden) ใกล้ๆกรุงเวียนนาและที่นีซ (Vienna & Nice) ด้วยความเป็นคนหัวก้าวหน้าและสนใจในกีฬา ความสนใจใคร่รู้ของเยลลิเน็กกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งรถยนต์ สิ่งประดิษฐ์ที่เขารู้ดีว่าจะเป็นกุญแจสำคัญของอนาคต
       

       ในต้นปี ค.ศ. 1897 เขาได้เดินทางไปยังเมืองคานน์สตัตท์เพื่อเยี่ยมชมโรงงานเดมเลอร์ และได้สั่งซื้อรถเดมเลอร์ขนาด 6 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยสายพานและใช้เครื่องยนต์สองสูบเป็นคันแรก แต่กว่ารถจะส่งมาถึงเขาก็ล่วงเข้าเดือนตุลาคม และถึงความเร็วสูงสุดของมันจะอยู่ที่ 24 กม.ต่อชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เร็วพอสำหรับเยลลิเน็ก เขาจึงสั่งรถเดมเลอร์รุ่น โฟนิกซ์ (Phoenix) เพิ่มอีกสองคันซึ่งมีกำลังเร็วถึง 40 กม.ต่อชั่วโมง และได้รับในเดือนกันยายน ปีค.ศ. 1898 รถทั้งสองคันนั้นเป็นรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 8 แรงม้า ไว้ด้านหน้า และนับเป็นรถยนต์ขนาดสี่สูบคันแรกของโลก

 เยลลิเน็กเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคนในวงการเงินและในสังคมชั้นสูงเป็นอย่างดี ความชื่นชมที่มีต่อตัวเขาในฐานะนักธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปี ค.ศ.1898 เขาเริ่มเผยแพร่และจัดจำหน่ายรถยนต์ของเดมเลอร์ให้ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในแวดวงสังคมชั้นสูง และในปี ค.ศ. 1899 ดีเอ็มจีได้ส่งรถยนต์ให้เยลลิเน็กจำนวน 10 คัน และมากถึง 29 คัน ในปี ค.ศ.1900 เยลลิเน็กได้สั่งรถที่เร็วขึ้นและมีกำลังแรงมากขึ้นจากดีเอ็มจี และในปี ค.ศ.1899 เขายังได้ร่วมแข่งรถในหลายสนามครั้งแรกและครั้งสำคัญคือ สนามที่เมืองนีซ ที่นั่นเขาลงแข่งในนาม เมอร์เซเดส ตามชื่อลูกสาวซึ่งขณะนั้นอายุสิบปี ในตอนแรกเขาไม่ได้ใช้ชื่อดังกล่าวเป็นตราสัญลักษณ์ของรถยนต์ เพียงแต่ใช้เป็นชื่อทีมและแทนตัวนักแข่งเท่านั้น
       
       ต้นเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1900 เยลลิเน็กทำข้อตกลงกับดีเอ็มจี ในเรื่องการขายรถยนต์และเครื่องยนต์ของเดมเลอร์ การตัดสินใจครั้งนั้นได้นำไปสู่การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ภายใต้ชื่อ เดมเลอร์-เมอร์เซเดส ซึ่งเป็นการนำนามแฝงของเขามาใช้เป็นชื่อสินค้า สองสัปดาห์ต่อมา เยลลิเน็กสั่งรถยนต์อีก 36 คัน เป็นยอดเงินถึง 550,000 มาร์ค ซึ่งเมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว คิดเป็นมูลค่าราวๆ 5.5 ล้านดอยช์มาร์ค และอีกสองถึงสามสัปดาห์ต่อมาเขาก็สั่งรถยนต์ขนาด 8 แรงม้าอีก 36 คัน

ที่มา :

 
[ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ]                          
 


  รายการบทความ