โฉมทรงพลัง
โฉมภายนอกได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจากรุ่นมาตรฐาน ส่งผลให้มีบุคลิกสะท้อนความดุดันมากกว่า ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกันชนใหม่พร้อมช่องดักอากาศ 3 ส่วน ขนาดใหญ่กว่า และกระจังรูปทรงตัววี (V) กรอบโครเมียมแถบเดี่ยว ขณะที่รุ่นมาตรฐานใช้กระจัง 2 แถบ
ส่วนที่เหลือยกชุดมาจากรุ่นมาตรฐาน ประกอบด้วย ไฟวิ่งกลางวัน LED ฝังอยู่ส่วนบนช่องดักอากาศ 2 มุมข้างกันชน ซึ่งทำหน้าที่รับอากาศเข้าไประบายเบรกทั้ง 2 ข้าง
ฝากระโปรงใหม่ดีไซน์ไลน์ตรงคมเด็ดเดี่ยว และเรือนไฟรูปทรงมีเหลี่ยมคมโดดเด่นกว่ารุ่นเก่า
เบนซ์ระบุว่าไฟหน้าของสปอร์ตคูเป้หรูขนาดใหญ่รุ่นนี้ เป็นเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบันของเบนซ์ ไฟหลักใช้ Bi-Xenon พร้อมระบบกระจายลำแสงเมื่อเข้าโค้งชนิด Active และระบบช่วยไฟสูง (Adaptive Highbeam Assist)
มุมด้านข้างแตกต่างที่ดีไซน์และขนาดของล้อ ขณะที่มุมบั้นท้ายมีเอกลักษณ์ที่ชุดกระจายมวลอากาศใต้กันชน ส่วนปลายท่อไอเสียคู่ 4 ท่อ และไฟรวมทั้งเรือนไฟ เหมือนกับรุ่นมาตรฐาน ยกเว้นรุ่น CL65 AMG ที่ใช่ปลายท่อทรงรีแทนทรงสี่เหลี่ยม
สีบอดี้มีด้วยกัน 9 สี ประกอบด้วย Black, Magnetite Black, Jade Green, Capri Blue, Flint Grey, Barolo Red, Iridium Silver, Palladium Silver และ Diamond White
พัฒนาภายในเพิ่มเติม
ภายในห้องโดยสารได้รับการพัฒนาเพิ่มระดับสปอร์ตคุณภาพสูง และความหรูประณีตด้วยสินค้าของ AMG ได้แก่ พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนังผิวนุ่ม ชุดตกแต่งคุณภาพสูงกว่ารุ่นมาตรฐานที่ชุดตกแต่งลายไม้ทำจากไม้ Burl walnut ซึ่งเบนซ์ระบุว่าใช้วัสดุมีคุณภาพนำคลาสอยู่แล้ว
ส่วนที่เหลือยกชุดมาจากรุ่นมาตรฐานเช่นเดียวกับดีไซน์ภายนอก โดยองค์ประกอบที่สำคัญคือ ปุ่มควบคุมชนิด Multifunction พวงมาลัยพร้อมฟังก์ชันของแอร์แบ็ก ช่องแอร์คอนดิชั่นพร้อมนาฬิกาออกแบบไว้ตรงกึ่งกลาง
.ชุดหุ้มเบาะและชุดตกแต่งหนังเกรดพรีเมียมมีสีให้เลือกมากกว่า โดยรุ่นมาตรฐานมีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ Black premium leather, Savanna/Cashmere premium leather, Ash/Grey premium leather และ Sahara Beige/Black premium leather
ขุมพลังเล็กลงแต่แรงขึ้น
ขุมพลัง เป็นองค์ประกอบที่มีพัฒนาการมากที่สุด รุ่น CL63 AMG ใช้เครื่อง V8 ทวินเทอร์โบ ไดเรกต์อินเจคชั่น 32 วาล์ว พร้อมเทคโนโลยีนวัตกรรม BlueDIRECT ขนาด 5.5 ลิตร ความจุ 5461 ซี.ซี. มีขนาดเล็กและเบากว่าขุมพลังของรุ่นเก่าที่ใช้ V8 ระบบอัดอากาศธรรมดา ขนาด 6.2 ลิตร
ขุมพลังไฮเทค เพลาข้อเหวี่ยงอะลูมิเนียม และซับไนกระบอกสูบทำจาก Silitec รุ่นนี้ รีดกำลังได้สูงสุด 536 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 590 ปอนด์-ฟุต เรียกได้ระหว่าง 2,000-4,500 รอบ/นาที
เบนซ์ระบุว่าแม้จะดุดันกว่ารุ่นเก่า แต่ประหยัดและปล่อยไอเสียต่ำกว่า โดยมีอัตรากินน้ำมันประหยัดขึ้น 27% และปล่อยไอเสียลดลง 30% ผ่านเกณฑ์ควบคุม EU-5 ของสหภาพยุโรป
ด้านสมรรถนะ ทำอัตราเร่งจาก 0-96.5 กม./ชม. ในเวลา 4.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
ระบบเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT 7 สปีด พร้อมโหมด Sport, Comfort และ Manual ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
หากเลือกออพชั่นแพ็กเกจ AMG Performance สปอร์ตคูเป้หรูรุ่นนี้รีดกำลังเพิ่มเป็น 563 แรงม้า และแรงบิด 664 ปอนด์-ฟุต ทำอัตราเร่งจาก 0-96.5 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 299 กม./ชม.
ช่วงล่างก้าวหน้า ABC
ส่วนของกันสะเทือนพัฒนาจากชุดไฮเทคเดิมระบบ Active Body Control (ABC) ของ AMG กันสะเทือนหน้าใช้ชุดอิสระ 4-Link พร้อมระบบควบคุมการยกตัว และเหล็กกันโคลง ส่วนกันสะเทือนหลังเป็นชุดอิสระ Multi-Link พร้อมระบบป้องกันการกระชากถอยและพุ่งออกตัว
ระบบเบรก เป็นชุดสมรรถนะสูงของ AMG ประกอบด้วยดิสก์ชนิดมีช่องระบายอากาศ ขนาดดิสก์หน้า 15.4 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์คู่ ส่วนดิสก์หลัง 14.4 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์เดี่ยว
ชุดล้อ ใช้ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ของ AMG ดีไซน์ก้านคู่ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว สวมยางหน้า 255/35 ZR20 และยางหลัง 275/35ZR20
รุ่นมาตรฐานใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยกเว้นรุ่นท็อป CL600 ที่ใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว
ปลอดภัยด้วยไฮเทค
ด้านอุปกรณ์มาตรฐาน มีเพิ่มเติมจากรุ่นมาตรฐาน 3 รายการ คือ ระบบพวงมาลัยชนิด Direct-Steer ระบบเบรกชนิด Torque Vectoring Brake (กระจายแรงเบรกตามสถานการณ์) และคานทรงตัวชนิด Crosswind ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมการวิ่ง
ส่วนอุปกรณ์ก้าวหน้าที่ยกมาจากรุ่นมาตรฐาน ซึ่งเบนซ์ประกาศว่าคูเป้รุ่นนี้ยังรักษาตำแหน่งผู้นำคลาสด้านเทคโนโลยีไว้ได้ ที่สำคัญส่วนหนึ่งมีดังนี้
ระบบช่วยคนขับทำงานผ่านเรดาร์ กล้อง และเซ็นเซอร์ ประกอบด้วย ระบบนวัตกรรม Active Lane Keeping Assist เป็นส่วนหนึ่งของ Driver Assistance Package ทำหน้าที่ส่งแรงสั่นระยะสั้น ๆ ที่พวงมาลัยเตือนคนขับ เมื่อรถมีแนวโน้มจะคร่อมเลน
Active Blind Spot Assist เป็นระบบนวัตกรรมอีกชุดหนึ่ง ทำหน้าที่เตือนเมื่อจะเปลี่ยนเลนในสถานการณ์เสี่ยงการชน โดยระบบจะเตือนด้วยไฟแดงที่กระจกข้าง หากคนขับยังเพิกเฉย ระบบจะเตือนด้วยเสียง และในระดับสุดท้าย หากคนขับยังเสี่ยงจะเปลี่ยนเลน ระบบจะสั่งเบรกล้อตรงข้ามเลนที่จะเปลี่ยนอัตโนมัติ เพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
ระบบช่วยไฟสูง Adaptive High Beam Assist ทำหน้าที่ปรับลำแสงไฟหน้าไม่ให้รบกวนคนขับคันหน้าและคันที่สวนทางอัตโนมัติอุปกรณ์ PRE-SAFE Brake พร้อมระบบเบรกฉุกเฉิน ทำงานผ่านเรดาร์ ทำหน้าที่เบรกอัตโนมัติเมื่อคนขับเผลอและรถเสี่ยงชนรถคันหน้า
รุ่นท็อปตีนต้น 4.2 วินาที
ขุมพลังรุ่นท็อป CL65 AMG เป็นเครื่อง V12 ขนาด 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ไดเรกต์อินเจคชั่น 32 วาล์ว รุ่นพัฒนาใหม่ รีดกำลังได้สูงสุด 621 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงกว่ารุ่นเก่า 17 แรงม้า
ส่วนแรงบิดสูงสุดเท่ารุ่นเก่าที่ 738 ปอนด์-ฟุต เรียกได้ระหว่าง 2,000-4,000 รอบ/นาที
ด้านสมรรถนะ ทำอัตราเร่งจาก 0-96.5 กม./ชม. เร็วกว่า CL63 AMG เล็กน้อยที่ 4.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 299 กม./ชม.
ระบบเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT 5 สปีด มีโหมด Sport, Comfort และ Manual เช่นเดียวกับ CL63 AMG ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
นอกจากเครื่องยนต์ใหญ่กว่าแล้ว รุ่นท็อปมีอุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างจาก CL63 AMG จำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีสีบอดี้และสีชุดตกแต่งภายในเพิ่มเติมเฉพาะรุ่น
ด้านการตลาด ค่ายยานยนต์หรูแห่งเยอรมนี กำหนดเปิดตัว CL63 AMG และ CL65 AMG อย่างเป็นทางการ ในมหกรรมยานยนต์ รายการปารีส มอเตอร์โชว์ 2010 ต้นเดือนตุลาคมนี้ ที่ฝรั่งเศส
จากนั้นจะนำออกจำหน่ายเป็นรถรหัสปี 2011 โดยประเดิมตลาดยุโรปและสหรัฐ เดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนตลาดสำคัญทั่วโลกคาดว่าจะได้สัมผัสสปอร์ตไฮเทครุ่นนี้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า
ข้อมูลจำเพาะ New Mercedes-Benz CL63 AMG
ประเภท คูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง
เลย์เอาต์ วางเครื่องหน้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ
เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 5.5 ลิตร
ความจุ 5461 ซี.ซี.
กำลังสูงสุด 536 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 590 ปอนด์-ฟุต ที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที
ความเร็ว0-96.5 กม./ชม. 4.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด จำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
เกียร์ อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT 7 สปีด
พวงมาลัย AMG พาวเวอร์ แร็คแอนด์พีเนียน
กันสะเทือนหน้า อิสระ 4-Link เหล็กกันโคลง
กันสะเทือนหลัง อิสระ Multilink ระบบป้องกันการพุ่งออกตัว
เบรกหน้า ดิสก์มีช่องระบายอากาศ 15.4 นิ้ว คาลิเปอร์คู่
เบรกหลัง ดิสก์มีช่องระบายอากาศ 14.4 นิ้ว คาลิเปอร์เดี่ยว
ล้อหน้า/หลัง AMG อัลลอย 20 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง 255/35ZR20-275/35ZR20
กำหนดจำหน่าย (ในยุโรป) พฤศจิกายน 2010