มาดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐาน
โฉมภายนอกได้รับการดีไซน์เพิ่มคุณสมบัติสปอร์ตด้วยแพ็กเกจของ AMG ส่งผลให้มีบุคลิกทรงพลังเหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน
โฉมด้านหน้าที่เปลี่ยนไป ประกอบด้วย กันชนพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ลิปสปอยเลอร์สีดำ ช่องดักอากาศมุมข้าง ไฟวิ่งกลางวันชนิด LED และกระจัง
ฝากระโปรงหน้าเปลี่ยนมาผลิตจากอะลูมิเนียม ช่วยลดน้ำหนักรวมลง ส่งผลดีต่อความปราดเปรียวและประหยัดน้ำมัน
ด้านข้างโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะรุ่นนี้ ขณะที่โฉมด้านท้ายสะท้อนบุคลิกสปอร์ตหรูและความมีเสถียรภาพจากกันชนดีไซน์ใหม่ พร้อมชุดกระจายมวลอากาศสีดำขนาดใหญ่ ปลายท่อไอเสียสปอร์ตคู่ 4 ท่อ และเรือนไฟออกแบบแถบไฟกะพริบ LED ไว้กลาง
ภายในหรูสไตล์ AMG
ภายในห้องโดยสารได้รับการพัฒนายกระดับคุณภาพเหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน ด้วยอุปกรณ์ของ AMG เช่นเดียวกับโฉมภายนอก โดยออกแบบแผงหน้าปัดและประตูใหม่ทั้งหมด ทำจากอะลูมิเนียมสีทึบ ดูหมดจด แฝงความหรูสะท้อนวัสดุคุณภาพสูง
จอภาพ TFT 3 มิติออกแบบใหม่ ออกแบบไว้ตรงกลางของเกจความเร็ว ขณะที่พวงมาลัยสปอร์ตยกชุดมาจาก CLS 63 AMG ดีไซน์ 3 ก้าน หุ้มหนัง Nappa ตกแต่งก้านด้วยเมแทลลิก พร้อมแพดเดิลชิฟต์อะลูมิเนียม
ปุ่มเลือกโหมดเกียร์ C, S, S+, M และ Race Start ออกแบบไว้ที่คอนโซลกลาง
ส่วนของเบาะ เป็นเบาะสปอร์ต พร้อมระบบป้องกันศีรษะฝังไว้ภายในที่พิงศีรษะ ส่วนกลางหุ้มหนังสีดำตัดด้วยส่วนข้างหุ้มหนังสีขาวครีม
สมรรถนะนำคลาส
สปอร์ตซาลูนรุ่นนี้ใช้เลย์เอาต์ชุดมาตรฐานของเบนซ์ คือวางเครื่องไว้ด้านหน้า และใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ขุมพลังยกชุดมาจากรุ่นเก่า เป็นเครื่องยนต์ของ AMG ชนิด V8 32 วาล์ว ขนาด 6.3 ลิตร ความจุ 6208 ซี.ซี. และอัตราแรงอัด 11.3:1
กำลังและแรงบิดไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเก่า โดยรีดกำลังได้สูงสุด 457 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที
ด้านสมรรถนะ เบนซ์ระบุว่ายังคงนำคลาส โดยเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาทีส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
หากเลือก Performance package ซึ่งเป็นออพชั่นยกชุดมาจาก SLS AMG กำลังสูงสุดพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 487 แรงม้า และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.4 วินาที
เกียร์ชุดใหม่
เทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกชุด ได้แก่ เกียร์สปอร์ตอัตโนมัติ AMG Speedshift MCT (Multi-Clutch Transmission) 7 สปีด รุ่นเดียวกับเกียร์ของ SL 63 AMG เป็นระบบเกียร์ที่ไม่ใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์เหมือนกับเกียร์อัตโนมัติ แต่ทำงานด้วยคลัตช์ชนิด Wet start-up clutch แทน
ระบบเกียร์มีฟังก์ชัน stop/start ทำงานต่อเนื่องในโหมด Controlled Efficiency (C) ช่วยเพิ่มความประหยัดและลดอัตราปล่อยไอเสีย โดยระบบนี้จะทำหน้าที่ดับเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่งรอสัญญาณไฟ หรือขณะที่การจราจรติดขัด และจะสตาร์ตเครื่องอัตโนมัติเมื่อถอนแป้นเบรก
นอกจากนั้นยังมีโหมด M (Manual), S (Sport) และ S+ (Sport Plus) ให้เลือกใช้ตามสถานการณ์การขับ
ด้วยเทคโนโลยีนี้ ส่งผลให้มีอัตรากินน้ำมันเฉลี่ย 8.34 กม./ล. ประหยัดกว่ารุ่นปัจจุบัน ขณะที่อัตราปล่อยไอเสียก็ต่ำกว่ารุ่นปัจจุบันเช่นกันที่ 280 ก./กม.
ช่วงล่างสปอร์ต
ช่วงล่างเป็นชุดสปอร์ตของ AMG กันสะเทือนหน้าใช้ชุดแม็กเฟอร์สันสตรัท ส่วนกันสะเทือนหลังเป็นชุดมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ได้รับการพัฒนาเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งชุดสปริงและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้มีความปราดเปรียวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็คงความนุ่มนวลเอื้อความสบายในการนั่งโดยสาร
ระบบพวงมาลัยชนิด Direct-Steer แร็คแอนด์พีเนียนไฮดรอลิก พร้อมระบบพาวเวอร์ ได้รับการพัฒนาปั๊มระบบพาวเวอร์เพิ่มเติม ทำให้อัตราการทำงานรวดเร็วขึ้น และมีส่วนช่วยเพิ่มความประหยัดอัตรากินน้ำมันของเครื่องยนต์
ด้านความปลอดภัย มีชุดเบรกสมรรถนะสูงของ AMG ทำหน้าที่หลัก ใช้ดิสก์ชนิด Internally ventilated and cross-drilled ทั้ง 4 ล้อ
ส่วนของล้อ ใช้ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาของ AMG ขนาด 18 นิ้ว ใช้ยางหน้ากว้างกว่ารุ่นปัจจุบัน ขนาดยางหน้า 235/40R18 และยางหลัง 255/3518
ปลอดภัยเทียบ S-Class
สำหรับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ยกชุดมาจาก S-Class และ CLS รวม 11 รายการ ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ กล้อง และเรดาร์ ส่งผลให้สปอร์ตซาลูนรุ่นนี้มีความปลอดภัยสูง
เริ่มที่ระบบ Attention Assist ทำหน้าที่ตรวจจับและเตือนคนขับเมื่อเกิดอาการจะงีบหลับ ระบบ Active Lane Keeping Assist และ Lane Keeping Assist ทำหน้าที่ควบคุมการวิ่งให้อยู่ในเลน
ระบบ Active Blind Spot Assist และ Blind Spot Assist ทำหน้าที่ตรวจจับรถในมุมอับเพื่อให้สามารถเปลี่ยนเลนด้วยความปลอดภัย ระบบ Speed Limit Assist ทำงานด้วยกล้องติดไว้ที่ขอบกระจกบังลมด้านใน ทำหน้าที่จับป้ายจำกัดความเร็วส่งข้อมูลเตือนคนขับที่จอระหว่างเกจ
ระบบ Adaptive High Beam Assist ทำหน้าที่ปรับลำแสงไฟหน้าไม่ให้รบกวนคนขับคันหน้าและคันที่สวนทางอัตโนมัติ ระบบ Park Assist พร้อม Parktronic ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถอยจอด ระบบเบรก PRE-SAFE ทำหน้าที่เบรกอัตโนมัติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต้องการความปลอดภัย
ส่วนอีก 2 ระบบ ได้แก่ Reversing camera และ Distronic Plus
ขายยุโรปกรกฎาคม
อุปกรณ์ไฮเทคเด่นอีกชุดหนึ่ง ได้แก่ ระบบเทเลเมติกส์ COMAND เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมจอภาพ 3 มิติขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมระบบสื่อสารบันเทิงและระบบนำทาง สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เป็นรุ่นแรก
ระบบสื่อสารบันเทิงอีกส่วนหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ประกอบด้วย ระบบโทรศัพท์ไร้สายบลูทูธ ระบบเปิดเพลงไร้สาย และพอร์ท USB ออกแบบไว้ใกล้กับที่วางแขนคอนโซลกลาง
เบนซ์กำหนดจำหน่าย New C 63 AMG ซาลูนพร้อมกับเวอร์ชั่นเอสเตทในยุโรป เดือนกรกฎาคมนี้ ราคาที่เยอรมนีรวมภาษี VAT 19% เริ่มต้นที่ 71,340.50 ยูโร (ประมาณ 3 ล้านบาท)
ข้อมูลจำเพาะ New Mercedes-Benz C 63 AMG
ประเภท ซาลูน 4 ประตู 5 ที่นั่ง
เลย์เอาต์ วางเครื่องหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องยนต์ AMG V8 32 วาล์ว 6.3 ลิตร
ความจุ 6208 ซี.ซี.
กระบอกสูบxช่วงชัก 102.2x94.6 มม.
อัตราแรงอัด 11.3:1
กำลังสูงสุด 457 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที
เกียร์ AMG Speedshift MCT 7 สปีด
0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที
ความเร็วสูงสุด จำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
กินน้ำมันเฉลี่ย 8.34 กม./ล.
อัตราปล่อยไอเสีย 280 ก./กม.
กันสะเทือนหน้า/หลัง แม็กเฟอร์สันสตรัท/มัลติลิงค์
ล้อหน้า/หลัง AMG อัลลอย 18 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง 235/40R18-255/35R18
น้ำหนัก 2,268 กก.
กำหนดจำหน่าย (ในยุโรป) กรกฎาคม 2011
ราคาที่เยอรมนี 71,340.50 ยูโร (3 ล้านบาท)