Mercedes-Benz E 250 CGI รุ่นเปิดประทุน
[ 28/05/2011 ] - [ 3098 ]
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่ง E-Class CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Cabriolet สู่ตลาดรถหรูในประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น บวกกับนวัตกรรมที่มากับยานยนต์หรูมีระดับ ไม่ว่าจะเป็นแผงบังคับทิศทางลม (AIRCAP๚) แผงกั้นลม (draught-stop) หลังคาผ้าแบบ 3 ชั้น ระบบป้องกันเสียงดังจากภายนอก โครงคุ้มกันนิรภัย (roll-over bars) และถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะ (headbags)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ระบุว่า E-Class Cabriolet เป็นรุ่นที่เข้ามาเสริมในตระกูล E-Class ใหม่ได้อย่างลงตัว โดย E-Class Cabriolet โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ปราดเปรียว แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา สง่างาม ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้อย่างอย่างสมบูรณ์แบบ กลุ่มลูกค้ายังคงกลุ่มผู้บริหารที่ชื่นชอบความสปอร์ต
โฉมนอกมาดเร้าใจ
การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ของรถระดับหรูจากค่ายดาว 3 ทั้งมาตรฐานการผลิตและวัสดุที่เลือกใช้ การออกแบบก็เช่นกันยังคงยึดความเรียบหรูภูมิฐานแต่แฝงความสปอร์ตในทุกรายละเอียด ไม่หวือหวาแต่น่าสัมผัส โดยเฉพาะการออกแบบตัวถังจัดอยู่ในประเภทของรถ Cabriolet 2 ประตู 4 ที่นั่ง ช่วงตัวยาวภูมิฐาน เส้นสายปราดเปรียวบ่งบอกความสปอร์ต กระจังหน้าออกแบบคล้ายปีกเครื่องบินฝังโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางออกแบบเข้ากับฝากระโปรงหน้า ลำตัวมีเส้นสายลาดเอียง ทำให้ตัวรถดูคล้ายรูปลิ่ม พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า ตกแต่งขอบคิ้วด้วยโครเมียมรอบคัน
การดีไซน์กันชนหน้าสไตล์สปอร์ตเฉียบคม ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เช่นเดียวกับตัวถังที่ลดแรงต้าน มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.28 ซึ่งต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน บั้นท้ายออกแบบให้ดูหนาให้ความรู้สึกที่มั่นคง ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมบริเวณที่จับกระโปรงท้าย ไฟท้ายชนิดโคมเดี่ยวทรงเหลี่ยมโฉบเฉี่ยวน่ามอง
การนำแนวคิดไดนามิกดีไซน์เข้ามามีส่วนในการออกแบบ ทำให้เส้นสายรอบตัวรถล้วนสะท้อนถึงความเป็นสปอร์ต สะท้อนพละกำลังใต้ฝากระโปรง พร้อมบุคลิกภาพปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวด้วยรูปทรงของโคมไฟหน้า 4 ดวง พร้อมไฟสำหรับการขับขี่ในกลางวัน แบบ LED ตัวถังปราศจากเสากลาง (B-pillar) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถสปอร์ตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class Cabriolet มีจุดเด่นที่หลังคาแบบ soft-top ซึ่งผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ และสามารถเปิดปิดได้ภายในเวลา 20 วินาที แม้ในเวลาที่รถวิ่งมาด้วยความเร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในส่วนของหลังคาผ้า หรือ soft top ของ E-Class Cabriolet เป็นหลังคาทึบแสงที่ผลิตขึ้นจากวัสดุพิเศษหลายชั้น และมีความหนาถึง 23.5 มม. ชั้นในบุด้วยฉนวนกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอก ชั้นนอกสุดเคลือบด้วยสารพิเศษ ป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่าน
ภายในหรูสมราคา
E-Class Cabriolet มาพร้อมกับ AIRCAP๚ หรือแผงบังคับทิศทางลม นวัตกรรมล่าสุดที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร โดยขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่แผงบังคับทิศทางลมซึ่งอยู่ด้านบนของกรอบกระจกบังลมหน้า จะทำหน้าที่หันเหกระแสลมให้ลอยข้ามห้องโดยสาร พร้อมกันนี้แผงกั้นลม (draught-stop) ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างพนักพิงศีรษะของเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง จะป้องกันไม่ให้กระแสลมไหลย้อนกลับ ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่สัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบนี้ นอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดหลุมอากาศ (turbulence) ในห้องโดยสารแล้ว ยังช่วยให้การสนทนาระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่สะดุดลงกลางคันเนื่องจากถูกเสียงของกระแสลมรบกวน
ทั้งยังส่งผลให้ระดับเสียงภายในห้องโดยสารลดลงถึง 4 เดซิเบล E-Class Cabriolet จึงเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่งที่เงียบที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ซึ่งคุณจะรับรู้ถึงคุณสมบัติพิเศษนี้ได้จากการสนทนาด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านระบบแฮนด์ฟรีที่ยังคงได้ยินเสียงของคู่สนทนาอย่างชัดเจนต่อเนื่อง แม้ขณะรถวิ่งด้วยความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ตาข่ายของแผงบังคับทิศทางลมซึ่งผลิตขึ้นจากเส้นใยสังเคราะห์พิเศษ ยังช่วยป้องกันการเกิดสุญญากาศภายในห้องโดยสารอีกด้วย เหนืออื่นใด การทำงานของแผงบังคับทิศทางลมจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่สตาร์ตเครื่องยนต์จนถึงความเร็วที่ระดับ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การออกแบบภายในเอาใจวัยรุ่นด้วยการออกแบบสไตล์สปอร์ตแฝงความหรูหรา เบาะนั่งทรงสปอร์ตปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า คอนโซลหน้ารวมถึงพวงมาลัยออกแบบสไตล์รถแข่ง พวงมาลัยชนิดสามก้านพร้อมครูสคอนโทรล คอนโซลกลางยาวดีไซน์เฉพาะตัว พร้อมช่องเก็บของ สำหรับการตกแต่งภายในยังคงเน้นวัสดุชั้นดีตั้งแต่หนังหุ้มเบาะเย็บตะเข็บคู่ รวมไปถึงวัสดุอะลูมิเนียม ทำให้ E-Class Cabriolet หรูหราแฝงความสปอร์ต นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล เครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อไร้สาย ระบบการหมุนเวียนอากาศภายในเย็นฉ่ำทั่วห้องโดยสาร นอกจากนี้ พื้นที่ภายในยังกว้างขวางโอ่อ่าสมกับเป็น Cabriolet ระดับหรูจากเยอรมนี
ขุมพลังเครื่องยนต์
E-Class Cabriolet ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ CGI รุ่นใหม่แถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1796 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 310 นิวตันเมตร/2,000-4,300 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลา 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 13 กิโลเมตรต่อลิตร พละกำลังทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงสู่ล้อคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะ และเพิ่มอรรถรสการขับขี่ให้เร้าใจมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเปลี่ยนเกียร์แบบวันทัช (One-touch Shift)
อุปกรณ์ความปลอดภัย
E-Class Cabriolet มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน รวมถึงโครงคุ้มกันนิรภัย (roll-over bars) ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในพนักพิงศีรษะของเบาะนั่งผู้โดยสารหลัง และจะดีดตัวสูงขึ้นโดยอัตโนมัติในสถานการณ์คับขัน นอกจากนั้นรถเปิดประทุนคันนี้ยังประกอบด้วย headbags ถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะขนาด 17 ลิตร สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ความปลอดภัยล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อ E-Class Cabriolet โดยเฉพาะ นอกจากนี้ E-Class Cabriolet ยังประกอบด้วยระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับ (ATTENTION ASSIST) ระบบ PRE-SAFE๚ และระบบไฟอัจฉริยะ (Intelligent Light System) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น E-Class
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ตั้งราคา E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Cabriolet ที่ 5,599,000 บาท ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
ข้อมูลทางเทคนิค
เครื่องยนต์ CGI 4 สูบ แถวเรียง
ความจุ 1796 ซี.ซี.
กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร/2,000-4,300 ต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร 7.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 13 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบส่งกำลัง 5 A/T
|