หลังจากเกิดวิกฤตโลกร้อน ทำให้หลายองค์กรหันมาใส่ใจในสภาพแวดล้อมกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะสายไปแล้วก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้น ค่ายรถที่เป็นต้นเหตุของมลภาวะอันดับต้น ๆ ของโลกก็หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ถึงขนาดคิดค้นเทคโนโลยีที่ช่วยลดมลภาวะซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของรถยนต์ดูจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทันที แต่ถ้าหากมองในมุมกลับ ถือเป็นจุดขายชั้นดีเลิศของค่ายรถเลยก็ว่าได้
  
      ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อรถ โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย ที่เรียกได้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ นับเป็นตัวเลือกหนึ่งของปัจจัยที่ 5 ที่บรรดาผู้มีอันจะกินยอมจ่ายเพื่อแลกกับชีวิตของครอบครัว ในขณะเดียวกัน ความตื่นตัวในการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดนวัตกรรมที่ถูกแทรกเข้ามาใหม่ ใช้ชื่อว่า BlueEFFICIENCY มาพร้อมกับ S-Class ตัวใหม่ที่ถูกเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
  
       BlueEFFICIENCY เป็นเทคโนโลยีที่ไม่เพียงจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 23% แต่ยังช่วยลดปริมาณไอเสียให้น้อยลง การทำงานของระบบที่ว่านี้เป็นระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง หรือเรียกว่า CGI ย่อมาจาก Charged Gasoline Injection ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้น และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง ในขณะที่สมรรถนะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เจ้าเทคโนโลยี BlueTec ในเครื่องยนต์ชนิด CDI ยังสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% ทำให้ S-Class เป็นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดี และยังช่วยลดมลภาวะ การออกแบบยังคงเน้นความหรูหราและความภูมิฐาน อีกทั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์ความสะดวกครบครัน

 โฉมนอกหรูหราภูมิฐาน
       S-Class ได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราภูมิฐาน เส้นสายโค้งมนกว่ารุ่นก่อน ดวงไฟได้รับการออกแบบใหม่ชนิดไบซีนอน และไฟ Day time แบบ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน กระจังหน้าทรงห้า เหลี่ยม ตะแกรงอะลูมิเนียม เอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตัวถังออกแบบลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างตกแต่งคิ้วด้วยแถบอะลูมิเนียม เพิ่มความหรูหราคลาสสิก 

ภายในกว้างขวาง
         ภายในกว้างขวางนั่งสบายด้วยความยาวที่ถูกเพิ่มขนาดถึง 13 ซม.จากรุ่นก่อน ทำให้มีพื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มมากขึ้น เบาะนั่งออกแบบรับกับสรีระของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ เบาะคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำที่จะบันทึกตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้างได้ถึง 3 รูปแบบ นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์และระบบความบันเทิงมากมาย อาทิ เครื่องเล่นดีวีดีแบบ 6 แผ่น จอโทรทัศน์ 2 ตำแหน่งซึ่งฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะของเบาะนั่งคู่หน้า ช่องต่ออุปกรณ์และหูฟังไร้สาย รวมถึงรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ
 
เครื่องยนต์เผาไหม้หมดจด
       เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบ เทคโนโลยี CDI (Commonrail Direct Injection) และหัวฉีด Piezo Injection ซึ่งจ่ายน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ด้วยแรงดันสูงถึง 2,000 บาร์ รวมถึงการออกแบบห้องเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 13 กม./ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกสู่อากาศโดยเฉลี่ยเพียง 202-204 กรัม/กม. แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและการทำงานที่ราบเรียบ
        เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร ชนิด V6 24 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 540 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที ทำให้ S 350 CDI สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.

ระบบส่งกำลังอัจฉริยะ
       S-Class มีระบบส่งกำลังที่น่าประทับใจ ด้วยประสิทธิภาพการทดเกียร์ที่ราบเรียบและนุ่มนวล ส่งผลให้การเรียกพละกำลังของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อม 7G Tronic เป็นเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ พร้อมเกียร์ถอยหลังแบบ 2 จังหวะ แบบ Direct Select ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้จากก้านเกียร์ที่คอพวงมาลัย ซึ่งควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งราบเรียบและนุ่มนวล นอกจากนี้ด้วยการออกแบบอัตราทดเกียร์ให้ชิดกันมากขึ้น จึงเรียกพละกำลังจากเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมการตอบสนองอย่างฉับไว และหากจำเป็นต้องลดตำแหน่งการเร่งแซง ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ข้ามจังหวะเกียร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องไล่เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำตามลำดับ อีกทั้งยังสามารถเลือกโหมดการทำงานได้ 3 รูปแบบ คือ Manual Comfort และ Sport

โครงสร้างตัวถังและระบบกันสะเทือน
        ระบบกันสะเทือนแบบอากาศ ใน The New S-Class ทุกรุ่น ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าน้ำหนักรถจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารหรือสัมภาระก็ตาม ระยะห่างระหว่างล้อและซุ้มล้อจะถูกรักษาระดับไว้ให้คงที่อยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ระบบยังปรับเปลี่ยนการทำงานให้สัมพันธ์กับสภาพถนนอยู่ตลอดเวลา แม้เผชิญกับผิวถนนที่ขรุขระก็ยังคงให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างนุ่มนวล และลดการสั่นสะเทือนของตัวรถให้เหลือน้อยที่สุด
         นอกจากนี้ ระบบกันสะเทือนแบบอากาศยังทำหน้าที่ปรับระดับความสูง-ต่ำของตัวรถขณะขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ กล่าวคือ เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วสูงกว่า 120 กม./ชม. ความสูงของตัวรถจะถูกลดระดับลง 15 มม. เพื่อผลทางหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดแรงเสียดทาน ยังส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มยิ่งขึ้น และเนื่องจากการยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างมั่นคง ทางตรงข้ามเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็ว 70 กม./ชม. ความสูงของตัวรถจะกลับคืนสู่ระดับปรกติในทันที
 
ระบบความปลอดภัย
        เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นรถต้นแบบด้านความปลอดภัยของโลก นวัตกรรมต่าง ๆ ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดใน S-Class ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ล้ำยุคอย่าง Attention Assist ซึ่งเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุ นวัตกรรมนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับขับขี่ทางไกล ขณะที่รถวิ่งในความเร็ว 20-180 กม./ชม. เซ็นเซอร์ภายในรถจะทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ลักษณะการขับขี่ต่าง ๆ พร้อมทั้งยังส่งสัญญาณเสียงและภาพเตือนทันที หากพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้าอันเป็นการป้องกันและช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ
        สำหรับระบบความปลอดภัยที่ถือเป็นมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มขีดความสามารถในการมองเห็นโดยใช้แสงอินฟราเรด นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยแบบปกป้องอย่างถุงลมนิรภัยถึง 10 ตำแหน่ง พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงปะทะและการคาดเข็มขัดนิรภัย
         นับเป็นรถที่เปิดตัวได้ดีในสภาวะที่สังคมกำลังตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกผสานความหรูหรา ทำให้ค่าตัวของ S350 CDI BlueEFFICIENCY L อยู่ที่ 7,999,000 บาท

ข้อมูลทางเทคนิค S 350 CDI BlueEFFICIENCY L
เครื่องยนต์                           ดีเซล V6 เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ                          2987 ซี.ซี.
กำลังสูงสุด                          211 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด                       540 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง                              0-100 กม./ชม. 7.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด                                250 กม./ชม.
ความจุถังน้ำมัน                              90 ลิตร
ระบบส่งกำลัง                      AT 7 Speed