BenzSociety ศูนย์รวมพลคนรัก Benz

                                  www.benzsociety.com
 
HomeBenz ShoppingBenzSociety ShowBenz Option ClassifiedsWebboardOffice
Import CarsShow RoomCar Service •  Wheels & Tires  •  Car stereoHome/CondoGolf Society Benz TravelEntertainment
          » รถเด่นประจำสัปดาห์ » All-New Mercedes-Ben...


  All-New Mercedes-Benz SLS AMG Roadster หลังคาซอฟต์ท็อปอัตโนมัติทำงานเร็วเพียง 11 วินาที
    [ 27/07/2011 ] - [ 1365 ]
 

       ค่ายเยอรมนีเตรียมส่งโรดสเตอร์หรูสมรรถนะสูงเสริมตลาดรุ่นคูเป้ ชูจุดขายด้วยหลังคาไฮเทคซอฟต์ท็อปอัตโนมัติ ทำงานรวดเร็ว ความดุเท่ารุ่นคูเป้ ขณะที่ฝีเท้าเป็นรองรุ่นคูเป้เพียงเล็กน้อย  สำหรับ All-New Mercedes-Benz SLS AMG Roadster ผลงานการพัฒนาของทีมงาน AMG โดยเป็นยานยนต์รุ่นที่ 2 ต่อจาก SLS AMG Coupe จำหน่ายปีที่แล้ว ที่ทีมงาน AMG พัฒนาเองทุกขั้นตอน โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์กำหนดเปิดตัว SLS AMG Roadster อย่างเป็นทางการ ปลายไตรมาส 3 ก่อนส่งจำหน่ายในตลาดสำคัญทั่วโลก ทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและขวา ภายในปีนี้


โฉมดีไซน์เดียวกับคูเป้
       การดีไซน์โฉมภายนอก ยกชุดมาจากรุ่นคูเป้ซึ่งประยุกต์ลักษณะเด่นของสปอร์ตแห่งตำนานรุ่น 300 SL และ 300 SL Roadster เข้ากับหลักการออกแบบร่วมสมัย ส่งให้โรดสเตอร์หรูรุ่นนี้มีบุคลิกคลาสสิกย้อนยุค กลมกลืนอยู่กับความร่วมสมัย
สัดส่วนเฉพาะตัว ประกอบด้วย กระโปรงหน้ายาว โดยยาวเกือบ 2 เมตร กระจกบังลมเอนลู่ไปด้านหลัง ส่วนท้ายสั้น และระยะยื่นจากล้อสั้น สะท้อนความปราดเปรียวและทรงพลัง    
      สำหรับกันชนหน้าพร้อมลิปสปอยเลอร์ กระจังขนาดกว้างพร้อมโลโก้ดาวตรงกลาง และปีก 2 ข้าง คล้ายเครื่องบิน ขณะที่ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้าและด้านข้างก็ติดปีกหรือครีบเช่นกัน ส่วนเรือนไฟออกแบบเป็นแนวตั้ง รวมไฟ 3 ประเภทในตัว คือ ไฟหลักไบซีนอนตรงกลาง ไฟกะพริบชนิด LED อยู่ส่วนบน และไฟวิ่งกลางวันชนิด LED อยู่ด้านล่าง
      และสปอยเลอร์หลังดีไซน์แบบเก็บตัวไว้ระดับเดียวกับฝากระโปรง จะยกตัวขึ้นอัตโนมัติเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม.ขึ้นไป องค์ประกอบที่ต่างจากคูเป้ นอกจากหลังคาแล้วยังมีประตูอีกส่วนหนึ่ง โดยคูเป้ใช้ประตูปีกนางนวล ส่วนรุ่นนี้ใช้ประตูระบบธรรมดา 


ภายในสไตล์ห้องนักบิน
      ห้องโดยสาร 2 ที่นั่ง ใช้ดีไซน์เดียวกับรุ่นคูเป้เช่นกัน ออกแบบโดยประยุกต์จากค็อกพิทของเครื่องบิน มีความกว้างขวาง หรูสไตล์สปอร์ตคลาสสิก สะท้อนความมีคุณภาพ และเอื้อต่อความสะดวกคล่องตัว โดยชุดตกแต่งมาตรฐาน ประกอบด้วยชุดหนังและโลหะ ขณะที่ชุดคาร์บอนไฟเบอร์เป็นออพชั่น ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยแผงหน้าปัดคล้ายปีกเครื่องบิน ขณะที่ช่องแอร์คอนดิชั่นชนิดปรับได้ 2 ช่อง รูปทรงคล้ายเครื่องยนต์เจ็ต เช่นเดียวกับคอนโซลกลางตกแต่งด้วยโลหะสีด้าน และคัน E-Select รูปทรงคล้ายคันบังคับของเครื่องบิน
     ส่วนปุ่ม AMG Drive Unit ขนาดใหญ่อยู่กลางคอนโซลกลางหลังคัน E-Select รวมทั้งปุ่มอื่น ๆ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์   สำหรับเบาะสปอร์ตโครงสร้างแมกนีเซียมน้ำหนักเบา หุ้มชุดหนังคุณภาพคัดสรรตามมาตรฐานของค่ายตราดาว ขณะที่พวงมาลัยสปอร์ตดีไซน์ 3 ก้านหุ้มชุดหนังคุณภาพสูงเช่นกัน พร้อมแพดเดิลชิฟต์ และก้านส่วนล่างทำจากโลหะ   
 

หลังคาไฮเทคไม่กินพื้นที่
      หลังคาซอฟต์ท็อประบบอัตโนมัติ มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาจากโครงสร้างทำด้วยแมกนีเซียม เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม ออกแบบผ้าเป็น 3 ชั้น แนวพับรูปตัวแซด (Z) พร้อมกระจกท้ายติดระบบไล่ไอฝ้า ผลิตด้วยกรรมวิธีเพื่อความปลอดภัยแบบชั้นเดียว มีสีให้ลูกค้าเลือก 3 สี คือ ดำ น้ำตาลเทา และแดงคลาสสิก
    สำหรับปุ่มควบคุมการเปิด-ปิดหลังคา ออกแบบไว้ที่ฐานคอนโซลกลางบริเวณด้านหน้าที่วางแขน ทำงานรวดเร็วเพียง 11 วินาที และสามารถทำงานได้ขณะวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. นอกจากมีคุณภาพสูงแล้ว หลังคาก้าวหน้าชุดนี้ยังโดดเด่นในด้านไม่กินพื้นที่ ช่วยให้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุแทบไม่ต่างจากรุ่นคูเป้ โดยความจุอยู่ที่ 6.1 ลูกบาศก์ฟุต ไม่ว่าจะคลุมหรือเก็บหลังคาไว้ในห้องเก็บ ขณะที่รุ่นคูเป้มีความจุ 6.2 ลูกบาศก์ฟุต โดยเป็นการออกแบบส่วนหนึ่งที่ไม่ให้ห้องหลังคากินพื้นที่ห้องเก็บของ คือการลดขนาดถังน้ำมันลงจากความจุ 80 ลิตรในรุ่นคูเป้ เป็น 75 ลิตร

บอดี้โครงอวกาศ

      การออกแบบบอดี้ เป็นนวัตกรรมส่วนหนึ่งของโรดสเตอร์รุ่นนี้ โดยใช้โครงอวกาศอะลูมิเนียม บอดี้และแชสซีผลิตจากอะลูมิเนียมเป็นรุ่นที่ 2 ของเบนซ์ต่อจากเวอร์ชั่นคูเป้  ด้วยโครงสร้างและวัสดุไฮเทคดังกล่าว ช่วยให้แชสซีมีความยืดหยุ่นและทนทานสูง อีกทั้งมีน้ำหนักตัวค่อนข้างเบาที่ 1,660 กก. โดยหนักกว่ารุ่นคูเป้เพียง 40 กก. เป็นผลจากการเสริมความแข็งแกร่งทดแทนหลังคาที่หายไป เพื่อคงคุณสมบัติด้านไดนามิกจากรุ่นคูเป้ไว้ให้มากที่สุด  
      สำหรับโครงสร้างทั้งหมดใช้อะลูมิเนียม 50% อะลูมิเนียมแผ่น 26% อะลูมิเนียมหล่อ 18% และเหล็กกล้า 6% ซึ่งการเสริมโครงสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ประกอบด้วย เสริมคานที่สเกิร์ตข้างพร้อมกับใช้บอดี้หนากว่าเดิม เพิ่มเสาค้ำโครงแผงหน้าปัด และติดตั้งเสาระหว่างห้องเก็บหลังคากับถังน้ำมันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเพลาหลัง  
      ส่วนโครงด้านหลังเบาะเพิ่มขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อรองรับคานนิรภัย (Roll-over) ชนิดยึดคงที่ โดยมีตู้ซับวูเฟอร์ขนาด 250 วัตต์ ของเครื่องเสียงไฮเอนด์ Bang & Olufsen BeoSound AMG ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้วย


มาตรฐานความปลอดภัย
      ด้านโครงสร้างแบบโครงอวกาศ นอกจากมีความทนทานสูงแล้ว ยังช่วยให้ซูเปอร์คาร์เปิดประทุนรุ่นนี้มีสมรรถนะโดดเด่นและปลอดภัยสูงด้วย นับเป็นอุปกรณ์ให้ความปลอดภัยชนิดปกป้องสำคัญที่สุด   ส่วนอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วย คานนิรภัยหลังเบาะ และเข็มขัดนิรภัยชนิดล็อก 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับและระบบลดแรงกระชาก แอร์แบ็ก 8 ชุด และระบบมองมุมอับ (Blind Spot Assist)


ความดุเท่ารุ่นคูเป้
     มาถึงขุมพลังและกลไกถ่ายทอดกำลังใช้รุ่นเดียวกับคูเป้ ทำให้กำลังและแรงบิดเท่ากัน แตกต่างที่สมรรถนะฝีเท้า เนื่องจากน้ำหนักตัวและโครงสร้างบอดี้เป็นตัวแปรสำคัญ  ซึ่งเครื่องยนต์ทำด้วยอะลูมิเนียมชนิด V8 ขนาด 6.3 ลิตร 32 วาล์ว ความจุ 6208 ซี.ซี. ขนาดกระบอกสูบและช่วงชัก 102.2 มม. และ 94.6 มม. ตามลำดับ และอัตราแรงอัด 11.3:1 ผลิตด้วยมือโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญของ AMG ทุกขั้นตอน 
      สำหรับกำลังสูงสุดอยู่ที่ 571 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร (479 ปอนด์-ฟุต) ที่ 4,750 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่เพลาหลังชนิดเพลาร่วม ผ่านเกียร์ดูอัลคลัตช์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7 สปีด ใช้เพลาขับทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกับรถแข่งทัวริ่งคาร์ DTM C-Class
      มาที่เกียร์ระบบก้าวหน้ามี 4 โหมด ประกอบด้วย "C" (Controlled Efficiency), "S" (Sport), "S+" (Sport plus) และ "M" (Manual) เลือกโหมดด้วยปุ่ม AMG Drive Unit ที่คอนโซลกลาง และด้านสมรรถนะเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4 วินาที ส่วนคูเป้ทำได้ 3.8 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ด้วยชุดอิเล็กทรอนิกส์ที่ 317 กม./ชม.


ช่วงล่างระดับเอฟ 1
      จากการใช้เลย์เอาต์วางเครื่องกึ่งกลางด้านหน้า และขับเคลื่อนล้อหลัง รวมทั้งการใช้เพลาร่วม ช่วยให้โรดสเตอร์หรูรุ่นนี้มีอัตรากระจายน้ำหนักระหว่างเพลาหน้าและหลังเกือบสมดุลที่ 47:53% เอื้อต่อความปราดเปรียวและการทรงตัว โดยกันสะเทือนหน้าและหลังใช้ชุดเดียวกัน คือ ดับเบิลวิชโบน ทำจากอะลูมิเนียม พร้อมคันส่ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของรถแข่ง Formula 1 (เอฟ 1) คอยล์สปริง ช็อกแอบฯแก๊ส เหล็กกันโคลง และระบบป้องกันการพุ่งออกตัว โดยมีกันสะเทือน Adaptive AMG Sport เป็นออพชั่น 
      ในการควบคุมบังคับใช้พวงมาลัยชนิดแร็คแอนด์พีเนียน ระบบพาวเวอร์ ปรับความหนักเบาตามระดับความเร็ว มีอัตราทดอยู่ที่ 13.6:1 ส่วนของล้อ ใช้ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาของ AMG มีให้เลือก (เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน) 2 ดีไซน์ คือ ชุดลายก้านคู่ 5 ก้าน และ 7 ก้าน ขนาดล้อหน้า 9.5x19 นิ้ว สวมยาง 265/35 R19 และล้อหลัง 11x20 นิ้ว สวมยาง 295/30 R 20และ ระบบเบรก มีชุดประสิทธิภาพสูง ดิสก์ทำจากคาร์บอนเซรามิก เป็นออพชั่น สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานของโรดสเตอร์หรูรุ่นนี้ ยังมีในส่วนที่ไม่ได้ระบุอีกหลายรายการด้วยกัน


ขายรุ่นขับขวาปลายปี
      ด้านการตลาด ค่ายเยอรมนีกำหนดเปิดตัวโรดสเตอร์หรูรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ ในมหกรรมยานยนต์ Frankfurt Motor Show 2011 จัดขึ้นระหว่าง 15-25 กันยายนนี้ ที่เยอรมนี แต่ได้เปิดจองในยุโรปก่อนหน้าการเปิดตัวแล้วเมื่อ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ราคาที่เยอรมนีรวมภาษี VAT 19% เริ่มต้น 195,160 ยูโร (ประมาณ 8.59 ล้านบาท) แพงกว่ารุ่นคูเป้ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 177,310 ยูโร (7.80 ล้านบาท)  ส่วนการส่งมอบ กำหนดไว้หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และด้านเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาประเดิมตลาดที่อังกฤษ สื่ออังกฤษระบุว่าเปิดจองพร้อมกับเยอรมนี แต่กำหนดส่งมอบช้ากว่าในเดือนพฤศจิกายน 

 

ข้อมูลจำเพาะ New MB SLS AMG Roadster
ประเภท                                  เปิดประทุน 2 ที่นั่ง หลังคาซอฟต์ท็อปทำงาน 11 วินาที
เลย์เอาต์                                วางเครื่องหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องยนต์                             AMG V8 6.3 ลิตร 32 วาล์ว
ความจุ                                    6208 ซี.ซี.
กระบอกสูบxช่วงชัก              102.2x94.6 มม.
อัตราแรงอัด                           11.3:1
กำลังสูงสุด                             571 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด                          650 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบ/นาที
ระบบเกียร์                              ดูอัลคลัตช์  7 สปีด ความเร็ว 0-100 กม./ชม. 4 วินาที
ความเร็วสูงสุด                        จำกัดไว้ที่ 317 กม./ชม.
กันสะเทือนหน้า/หลัง             ดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง ช็อกแอบฯ แก๊ส
 พวงมาลัย                              แร็คแอนด์พีเนียนพร้อมพาวเวอร์
ล้อหน้า/หลัง                           9.5Jx19/11Jx20 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง                          265/35R19-295/30R20
น้ำหนัก                                    1,660 กก.
กำหนดจำหน่าย  (ในยุโรป)   กันยายน 2011
ราคาที่เยอรมนี                       195,160 ยูโร (8.59 ล้านบาท)

 
[ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ]                          
 


  รายการบทความ
New C 63 AMG Coupe Black Series สมรรถนะโดดเด่นเทียบชั้นรถแข่งทัวริ่งคาร์ ..
Benz Brabus E V12 Cabriolet เปิดประทุน 4 ที่นั่งเร็วที่สุดในโลก ..
Mercedes-Benz SLS AMG
All-New Mercedes-Benz SLS AMG Roadster หลังคาซอฟต์ท็อปอัตโนมัติทำงานเร็วเพียง 11 วินาที ..
All-New Mercedes-Benz SLK-Class หลังคาก้าวหน้าระบบ Magic Sky Control ..
The New S-Class รถรักษ์สิ่งแวดล้อม ..
Mercedes-Benz E 250 CGI รุ่นเปิดประทุน ..
New Mercedes-Benz S63 AMG เพิ่มความร้อนแรงแต่ประหยัดขึ้น 25% ..
New Mercedes-Benz C 63 AMG ระบบความปลอดภัยเทียบชั้น S-Class ..
New MB CL63 AMG & CL65 AMG สปอร์ตหรูพลังดิบเครื่องทวินเทอร์โบ ..
Mercedes-Benz SLS AMG E-Cell
SL R230 Mclaren Version
W- 140 VIP.
W-210
W211 AMG E55
ดูทั้งหมด »