ครูบาวัง วัดบ้านเด่น สุดยอดเสน่ห์ผ้ายันต์ม้าเสพนาง
[ 13/12/2011 ] - [ 5265 ]
ในสายล้านนามีพระเกจิอาจารย์ภาคเหนือที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น ทุกคนต่างรู้จักและให้ความศรัทธากันอย่างมาก ทั้งนี้เพราะวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมาแต่ละอย่างล้วนเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นถึงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง จะโด่งดังมากที่สุดจนเวลานี้ขึ้นทำเนียบอันดับหนึ่งไปแล้ว
ความเป็นมาของครูบาวังนั้น ท่านเกิดที่ตำบลเหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “แก้วมหาวงศ์”
เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมเสโน”
หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย
ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ “ป่าเด่นกระต่าย” ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว
ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม้คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า “วัดบ้านเด่น” ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป็นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้
และที่วัดแห่งนี้ก็ยังได้รับความอุปถัมภ์จากปลัดอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ ขุนโสภิต ซึ่งเป็นบิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก
เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้วครูบาวัง ท่านก็ใช้เวลาที่มีอยู่ในการปฏิบัติกิจวัตรด้วยการหมั่นเจริญภาวนาทั้งการทำสมาธิและวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด พร้อมกับเมตตาช่วยเหลือทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาไม่ว่าจะเป็นการรักษาไข้ หรือช่วยตรวจดวงชะตาช่วยเหลือผู้ที่มีเคราะห์ รวมไปถึงการสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาให้ได้บูชากัน โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ
สำหรับเครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังไปทั่วนั้นก็คือ ผ้ายันต์ม้าเสพนางที่เขียนขึ้นด้วยมือ จนเวลานี้ราคาค่าเช่าสูงกว่าผ้ายันต์ทั่วไปมากนัก ซึ่งในการเขียนจะจารอักขระล้านนาด้วยปากกาลูกลื่นยี่ห้อ BIC ด้ามเหลืองด้วยหมึกสีดำของที่เป็นอักษรธรรมล้านนา/อักษรฝักขามบนผืนผ้า ทั้งยันต์ในตารางและบริเวณล้อมรอบผ้ายันต์
ในการเขียนจารพร้อมทั้งบริกรรมคาถากำกับ ซึ่งฤกษ์ยามในการเขียนผ้ายันต์จะต้องสัมพันธ์กับตำราโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อหวังผลเด่น 3 ทาง คือ 1. เป็นเมตตามหานิยมอย่างสูง 2.มีเทพชั้นสูงเฝ้าพิทักษ์รักษา 3.เป็นมหาอำนาจศัตรูที่คิดร้ายจะแพ้ภัยตัวเอง ต่อมาได้สร้างผ้ายันต์ม้าเสพนางแบบสกีน นอกจากนี้ยังมีผ้ายันต์อิ่นแก้วที่สร้างน้อย กับผ้ายันต์ช้างเสพนาง รวมไปถึงม้าเสพนางแบบดินเผา ซึ่งค่อนข้างหายากแต่มีพุทธคุณไม่ต่างกัน
ส่วนตะกรุดก็เป็นที่รู้จักกันไม่น้อย ซึ่งสร้างขึ้นมาหลายชนิดด้วยกัน เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดพับแหนบใบพลู และสีผึ้ง น้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ พร้อมกันนั้นยังมีความสามารถในด้านการนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล
สำหรับวาระสุดท้ายของครูบาวัง ท่านได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา สำหรับศิษย์เอกของท่านที่ได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมไว้แบบเต็มๆ และเป็นเกจิอาจารย์ดังอยู่ในปัจจุบันคือ “ครูบาสายทอง” วัดท่าไม้แดง ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก
ขอบคุณข้อมูลจาก ร้านเมืองเหนือ โทร.085-707-0575 หรือ WWW.Thailannaamulet .COM
บรรยายภาพ
1.ผ้ายันต์ม้าเสพนางแบบสกีนปี 2511
2.ผ้ายันต์ม้าเสพนางยุคแรกเขียนมือ
3.ผ้ายันต์อิ่นแก้ว
4.ผ้ายันต์ช้างเสพนางเขียนมือก่อนปี 2500
5.ตะกรุดพับแหนบใบพูล
6.ตะกรุด 5 ดอก
7.ตะกรุดม้าเสพนาง
8.เปรียบเทียบผ้ายันต์ม้าเสพนางแท้กับเก๊
|