หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม เกจิอาจารย์ขมังเวทย์แห่งชัยนาท
[ 18/04/2012 ] - [ 9730 ]
แถบดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ของจังหวัดชัยนาท ถ้าถามถึงพระเกจิอาจารย์หลายคนมักจะนึกถึงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า แต่ต่อมายุคหลังต้องยกให้หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ซึ่งท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้มีณานแก่กล้าและเชี่ยวชาญในเวทมนต์คาถาที่เล่าเรียนมาจากอาจารย์ชื่อดังหลายคน จึงได้สร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลออกมาได้อย่างเข้มขลัง จนเป็นที่พี่งให้กับผู้ที่ศรัทธามาโดยตลอดและต่างก็ได้รับประสบการณ์กัน
ตามประวัติความเป็นหลวงพ่อกวย ในสมัยยังเป็นพระหนุ่มนั้นได้เริ่มเรียนปริยัติธรรม ต่อมาได้เรียนนักธรรมโท แต่พอถึงเวลาสอบได้เป็นไข้ไม่สบายเลยไม่ได้สอบ จึงมาคิดได้ว่าปริยัติธรรมก็เรียนมาพอสมควร จึงอยากจะเรียนวิปัสสนากรรมฐานและอาคมตลอดจนวิธีทำเครื่องรางของขลัง จึงได้เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อศรี วิริยะโสภิต แห่งวัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อศรีองค์นี้เชี่ยวชาญในวิปัสสนากรรมฐานมาก เก่งที่สุดในจังหวัดสิงห์บุรี ขณะนั้นหลวงพ่อได้เรียนวิชาทำแหวนนิ้ว ซึ่งแหวนนิ้วของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ใต้ท้องวงจะตอกตัวขอมอ่านว่าอิติ ของหลวงพ่อก็เช่นกันและได้เรียนวิชาอีกหลายอย่าง
ต่อมาได้พบตำราเป็นสมุดข่อยอยู่ในโพรงไม้ แต่เอามาไม่ได้ เพราะตำรานั้นมีอาถรรพณ์แรงมาก คล้ายมีเทพและเทวดารักษา จึงได้มาชักชวนพระกวยให้ไปดู ปรากฏว่ามีตำราอยู่โพรงไม้จริง จึงได้อธิษฐานขอพร้อมกับกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของตำราและอัญเชิญเอาตำรานั้นมาเก็บไว้ ซึ่งพอเปิดตำราดูปรากฏว่ามีลายลักษณ์อักษรบอกไว้ในตำราว่า ตำรานี้ห้ามเอาไปไว้บ้านใคร ๆ ทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะฉิบหาย พระภิกษุกวยจึงได้ศึกษาตำรายันต์และคาถาจากตำราเล่มนี้
ปัจจุบันตำราเล่มนี้ยังอยู่ที่วัด หน้าปกเขียนว่าครูแรงด้วยสีแดง ปกติไม่มีใครกล้าหยิบต้องเปิดตำราดู โดยในตำรามีพระมนต์และยันต์ต่าง ๆ มากมายหลายร้อยยันต์ เป็นยันต์กันอาวุธ, กันกระทำ, กันคุณ, กันของ คาถาก็มีมากมายหลายบท เป็นภาษาของคนโบราณแต่มีบทหนึ่งเขียนไว้ว่า พระมนต์พระพุทธเจ้าชนะมาร ใช้เรียกนางแม่ธรณี ใช้ทำน้ำมนต์ ฆราวาสห้ามเรียน ในพระมนต์นี้ได้เขียนถึงการใช้มนต์ในทางที่ดี และใช้ไปในทางที่ร้าย
เมื่อหลวงพ่อออกจากวัดหนองแขมแล้ว ได้ไปจำพรรษาที่วัดบางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ได้มาเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ได้เรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอ และอื่น ๆ และได้เรียนวิชารักษาโรคกระดูกหักจากหลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี จ.อุทัยธานี เข้าใจว่า หลวงพ่อคงจะเรียนวิชากับหลวงพ่อองค์อื่น ๆ อีก เพราะในตำรารักษาไข้ ยังได้กล่าวถึงครูของท่านองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน กับหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ก็เข้าใจว่าชอบพอกัน เพราะหลวงพ่อเคยทำพระพิมพ์ยอดขุนพล แล้วนำเหรียญหลวงพ่อกันกดลงไปด้านหลัง และศิษย์ร่วมรุ่นของหลวงพ่อที่เป็นที่รู้กันคือ หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู อ.บรรพตพิสัย
ในช่วงนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าหลวงพ่อกลับวัดบ้านแคเมื่อไร แต่ก่อน พ.ศ. ๒๔๘๔ เมื่อหลวงพ่อกลับมาอยู่วัดบ้านแค หลวงพ่อ ได้ทำการสักให้ศิษย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ซึ่งมีศิษย์สักยันต์กันมาก ได้จดบัญชีไว้ ๔ หมื่น ๔พันคน แล้วหลวงพ่อก็ไม่ได้จด ชื่อศิษย์อีกเลย ไม่ถามแม้แต่ชื่อ ศิษย์สักของหลวงพ่อหลายคนยิงไม่ออก เป็นเรื่องแปลกมาก ที่คนธรรมดาจะยิงไม่ออก ต่อมาหลวงพ่อเห็นว่าสมควรแก่เวลา หลวงพ่อได้หยุดสัก
จากนั้นหลวงพ่อก็ทำแต่เครื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด, มีดหมอ, แหวนแขน, พระพิมพ์ ฯ วัดบ้านแคและได้นำตะกรุดของครูบาอาจารย์มาแจกเป็นของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์กับเป็นของหลวงพ่อเดิมในแบบงาก็มี และที่หลวงพ่อทำเอง เพราะมีคนมาขอกันมาก ตลอดจนสมัยนั้นมีเสือเข้ามาปล้นบ้านกันมากมาย บ้านเมืองข้าวยากหมากแพง ผู้คนเดือดร้อน บ้างก็เจ็บ ป่วย ไม่มีหมอ ไม่มียา พระกวยก็ช่วยจนสุดกำลัง
สุดท้ายหลวงพ่อยังได้เรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี ได้เรียนวิชาทำผงจินดามณี, เรียนวิชามือยาว ฯ และยังได้เรียนวิชาทำผ้าขอด ไปได้กลับได้ และตะกรุดกระดูกงูจากหลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี อาจารย์ท่าน ๒ องค์นี้ มีหลักฐานแน่ชัด แม้ขณะที่พักจำพรรษาที่วัดบางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย ยังได้เรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดนด้วย
สำหรับพระเครื่องของหลวงพ่อกวยที่สร้างและปลุกเสกไว้นั้นมีอยู่หลายพิมพ์เท่าที่พบเจอมากที่สุดเห็นจะเป็นพิมพ์สมเด็จ โดยเฉพาะสมเด็จปกโพธิ์ 9 ใบหลังแม่พระธรณี ที่เวลานี้มีค่านิยมสูงผู้คนต่างแสวงหามาบูชากันไม่น้อย ตามมาด้วยสมเด็จหลังรูป ,สมเด็จแหวกม่าน ,สมเด็จซุ้มระฆัง ,สมเด็จฐานสิงฆ์ และสมเด็จหลังพระสิวลี ส่วนพิมพ์พระสิวลีใครมีไว้จะนำมาซึ่งโชคลาภ ที่ไม่ต่างจากพิมพ์พระสังกัจจายน์ และยังมีพิมพ์อื่น ๆ อีกที่ค่อนข้างหายากที่สร้างในยุคต้นก่อนปี 2500 อย่าง พระคง พระรอดมือโต และพระปางเปิดโลก
สุดท้ายวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยทุกรุ่น ท่านตั้งใจสร้างและปลุกเสกเองอย่างเต็มกำลัง โดยจะแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์และผู้ที่ศรัทธา โดยที่ผ่านมาใครมีไว้บูชาต่างบอกเล่าต่อกันมาถึงพุทธคุณที่ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย
บรรยายภาพ
1.พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบหลังแม่พระธรณี
2.พระคงยุคต้นก่อนปี 2500
3.พระสีวลียุคต้นก่อนปี 2500
4.พระรอดมือโตยุคต้นก่อนปี 2500
5.พระสังกัจจายน์ยุคต้นก่อนปี 2500
|