BenzSociety ศูนย์รวมพลคนรัก Benz

                                  www.benzsociety.com
 
HomeBenz ShoppingBenzSociety ShowBenz Option ClassifiedsWebboardOffice
Import CarsShow RoomCar Service •  Wheels & Tires  •  Car stereoHome/CondoGolf Society Benz TravelEntertainment
          » พุทธามหาเวท » หลวงพ่...


  หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ สุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า
    [ 18/04/2012 ] - [ 2992 ]
 

       หากย้อนกลับไปในยุคก่อน 2500 ต่างก็ยอมรับกันว่าพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นล้วนแต่เก่งกล้าสามารถในเวทมนต์คาถาเป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะหลวงพ่อกลั่น   วัดพระญาติการาม  จังหวัดอยุธยา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดเกจิอาจาย์อีกผู้หนึ่ง  ที่เก่งรอบด้านทั้งการต่อสู้และไสยเวทย์ จึงทำให้มีผู้คนนับถือกันไปทั่ว เพราะต่างก็ได้รับประสบการณ์จากวัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสกขึ้นมา ซึ่งนั้นก็ทำให้เหรียญรุ่นแรกราคาพุ่งสูงแทบเอื้อมไม่ถึง       
         สำหรับความเป็นมาของหลวงพ่อกลั่น แห่งวัดพระญาติการามนั้น ท่านเกิดที่บ้านอรัญญิก แต่ก่อนขึ้นกับอำเภอนครหลวง ปัจจุบันขึ้นกับอำเภอท่าเรือ พ่อท่านชื่ออิน แม่ท่านชื่อชั้น มีพี่น้อง 4 คนหลวงพ่อกลั่นท่านเป็นคนโต พ่อแม่ท่านประกอบอาชีพในการทำนา โดยท่านได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดประดู่ทรงธรรมกับพระอาจารย์ม่วง ซึ่งเป็นผู้ที่มีวิชาความรู้มาก สมาธิแก่กล้า มีความรู้ทางธรรมสูง
        หลังจากที่เล่าเรียนเขียนอ่านแล้วท่านก็ไปช่วยพ่อแม่ท่านประกอบอาชีพทำนา ด้วยท่านเป็นผู้ที่ชอบในวิชากระบี่กระบอง และวิชาการต่อสู้ในเชิงมวย ท่านเป็นคนที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวและมีชั้นเชิงในการต่อสู้และชั้นเชิงในวิชากระบี่กระบองเป็นอย่างมากเมื่อเรียนมาแล้วท่านยังฝึกฝนในชั้นเชิงการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยตัวของท่านเอง การชกมวยของท่านดังกระฉ่อนไปไกล
       นอกจากจะเก่งทางวิชาการกระบี่กระบองวิชามวยไทยในแบบการป้องกันตัวต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ท่านได้สนใจวิชาอาคมขลัง สมัยก่อนต้องหนังดีคงกระพันชาตรีใครตีไม่แตก จะเป็นวิชาเสกหมาก เสกใบพูลกินให้เหนียว เสกปูนพาดคออาพัดเหล้ากินให้หนังเหนียวหรือจะเสกฝุ่นเสกน้ำอาพัดน้ำลายกลืน ฟันแทงไม่เข้าตีไม่แตก พร้อมกันนั้นท่านยังเรียนวิชาปลาไหลเผือกจับไม่ติด เวลาเข้าประจันด้วยศัตรูที่มีมากกว่าจะจับอย่างไรก็หลุดไปหมด
       และเมื่อท่านใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน ในที่สุดก็เบื่อชีวิตที่ผ่านมา เพราะหาแก่นสารอะไรไม่ได้เลย เหมือนชีวิตผ่านไปวัน ๆ  และอีกประการหนึ่งวันนี้ชนะได้วันต่อไปอาจแพ้แน่นอน ไม่มีใครที่จะชนะไปได้ทุกครั้งท่านเองก็เคยล้มพวกนักเลงใหญ่มาแล้ว ต่อไปก็ต้องถูกคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนล้มท่านบ้าง ผู้คนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิงการต่อสู้และการหักหลังท่านพบเห็นมาแล้ว ท่านจึงตัดสินใจออกบวชที่วัดประดู่ทรงธรรม โดยมีพระอาจารย์ม่วงเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านธรรมและด้านมนต์อาถรรพณ์ต่างๆ
       ท่านศึกษาอยู่สำนักวัดประดู่ทรงธรรมได้รับความรู้ต่างๆ เอาไว้อย่างมาก  ซึ่งในอดีตจังหวัดนี้มีพระอาจารย์ที่รับการถ่ายทอดอาคมขลังจากสำนักต่างๆ ในยุคนั้นมีสำนักวัดตูม สำนักวัดประดู่ทรงธรรม ทั้งสองสำนักนี้ได้สืบทอดตำรามนต์อาถรรพณ์ และด้านธรรมะมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระอาจารย์ในยุคกึ่งพุทธกาลก็หลายสิบรูปด้วยกัน แม้แต่ทุกวันนี้และที่ผ่านมาพระอาจารย์หลายๆ ท่านก็รับการสืบทอดตำรามาจากสองสำนักนี้
       ต่อมาท่านได้รับมอบหมายจากพระอาจารย์ หลวงพ่อม่วงเห็นว่าท่านสมควรจะไปอยู่ดูแลวัดพระญาติการาม ซึ่งตอนนั้นวัดกำลังขาดผู้ดูแลผู้นำในการบูรณะซ่อมแซมด้วยสภาพที่ก่อสร้างมาช้านาน   ด้วยชื่อเสียงของท่านที่โด่งดังไปทั่วไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระอาจารย์อื่นๆ ในลุ่มเจ้าพระยา เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์ท่านชอบวิชาอาคมขลังและด้านความรู้ทางสมุนไพร ยังเดินทางไปกราบท่านและฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน ยังได้พบกับความขลังความศักดิ์สิทธิ์ให้ประจักษ์มาแล้ว
       ที่สำคัญหลวงพ่อกลั่นเป็นหนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูง  ซึ่งในปีพ.ศ. 2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธีร้อยกว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์เดินทางไปร่วมในพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละสิบองค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์
      ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบกันถึงสามวันสามคืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่ไม่สามารถกลับได้
       ส่วนที่ทำให้กบไสไม้วิ่งไปและกลับได้นั้นมีด้วยกัน 10 รูป คือ1.หลวงพ่อกลั่น   2.หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว   3.หลวงปู่ศุข  วัดมะขามเฒ่า 4.หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 5.หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 6.หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก  7.หลวงพ่อทอง  วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์ 8.หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย  9.หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว 10.หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ ชุมพร
       หลวงพ่อกลั่นท่านเป็นพระที่ชอบความสงบเงียบ ชอบการเจริญกรรมฐานภาวนา ออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ สมัยนั้นเมื่อเล่าเรียนวิชาแล้วต้องฝึกกรรมฐานให้แก่กล้า มีความรู้ทางด้านยาสมุนไพร ในการรักษาไข้รักษาโรคร้ายต่างๆ อีกทั้งถอดถอนคุณไสยร้ายได้อย่างดี ถึงจะสามารถรักษาตัวรอดพ้นไปได้
       ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการพัฒนาอย่างมากจากหลวงพ่อเฉลิม ท่านสร้างวิหารขึ้นประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อกลั่น  มีคนเดินทางไปกราบไหว้รูปเหมือนของท่านกันไม่ขาด 
    

      นับว่าหลวงพ่อกลั่น  ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังแก่กล้าในณาณสมาธิ  จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นทีพึ่งให้ผู้ที่ศรัทธามาจนถึงทุกวันนี้   
    
     บรรยายภาพ
    
1.เหรียญเสมารุ่นแรกสร้างปี 2469   2.เหรียญหลวงพ่อกลั่นอีกรุ่น
     3.ตะกรุดคู่ถักเชือก  4.ตะกรุดโทนรุ่นเก่า

     5.เหรียญแบบตะขอเบ็ดเนื้อทองแดง 

 
[ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ]                          
 


  รายการบทความ
หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ สุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า ..
หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พระปฏิบัติอาคมขลัง วาจาสิทธิ์ ..
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เทพเจ้าแห่งอำเภอโพทะเล ..
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เกจิฝั่งธนฯผู้เลื่องชื่อในไสยเวท ..
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อดีตสุดยอดเกจิอาจารย์อาคมขลัง ..
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เกจิอาจารย์เมืองกรุงผู้เข้มขลัง ..
หลวงปู่ชื่น วัดตาอี ตำรับไสยเวทย์เขมรโบราณ ..
หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง พระราหูอมจันทร์กะลาตาเดียว ..
เครื่องรางของขลังหลวงพ่อมี เมตตาคุ้มกันภัยสารพัดชนิด ..
พระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ สร้างครั้งเดียวเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ..
หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ พระปิดตาอันดับหนึ่ง ..
หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม เกจิอาจารย์ขมังเวทย์แห่งชัยนาท ..
พระหลวงพ่อปานพิมพ์ทรงสัตว์ เคล็ดดูผงวิเศษว่าเก่าหรือใหม่ ..
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ผู้แก่กล้ากสิณอาคมขลัง ..
พระขุนแผนยอดนิยม ครบเครื่องเสน่ห์คงกระพัน ..
ดูทั้งหมด »