ภายในสไตล์รถแข่ง
         ห้องโดยสาร 2 ที่นั่ง ดีไซน์สีทูโทน ดำ-แดง โดดเด่นด้วยอุปกรณ์สะท้อนไฮเทค คุณภาพของวัสดุและบรรยากาศคล้ายรถแข่งหรู เบาะทั้ง 2 ที่นั่ง ใช้ชุดเดียวกับรถแข่ง หุ้มด้วยชุดไมโครไฟเบอร์ Dinamica สีดำ ซึ่งเป็นวัสดุที่พัฒนาออกมาใหม่ โดยส่วนของประตูก็บุด้วยวัสดุเดียวกัน  
         ส่วนพวงมาลัยสปอร์ตพร้อมแพดเดิลเกียร์ชิฟต์อะลูมิเนียม หุ้มด้วยชุดหนัง Nappa และไมโครไฟเบอร์ Dinamica เย็บด้วยตะเข็บแดง ซึ่งชุดตกแต่งส่วนกลางของประตู ที่พักแขนที่ประตู คอนโซลกลาง และคันเกียร์ ก็เย็บด้วยตะเข็บแดงเช่นกัน ขณะที่เบาะตัดด้วยเข็มขัดนิรภัยสีแดง
        แผงหน้าปัดประกอบด้วย เกจทรงกลมดีไซน์สปอร์ต 3 เกจ และจอภาพสี 3 มิติ TFT ติดตั้งไว้มุมข้างแผงหน้าปัดเหนือคอนโซลกลาง เอกลักษณ์เฉพาะอีกส่วนหนึ่ง คือการออกแบบโลโก้ AMG ไว้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ 

ขุมพลังจาก SLS AMG
        ขุมพลังเป็นเครื่องเบนซินของ AMG ชนิด V8 รหัส M156 ขนาด 6.3 ลิตร 32 วาล์ว มีขนาดกะทัดรัด ใช้ระบบอัดอากาศแบบธรรมชาติ โดยมีแรงอัดสูงถึง 11.3:1 ความจุ 6208 ซี.ซี. กระบอกสูบและช่วงชัก 102.2 มิลลิเมตร และ 94.6 มิลลิเมตร ตามลำดับ  โดยขุมพลังรุ่นนี้เป็นเครื่องรุ่นเดียวกับซูเปอร์คาร์ประตูปีกนางนวล SLS AMG
        สำหรับองค์ประกอบทุกส่วนพัฒนาจากรถแข่ง ทั้งลูกสูบ ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง ชุดจัดการเครื่องยนต์ และชุดทำความเย็นน้ำมันหล่อลื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 50% ช่วยให้สปอร์ตคูเป้รุ่นนี้มีประสิทธิภาพในการลุยสนามแข่งเพิ่มขึ้น
       นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาระบบเสียงจากปลายท่อไอเสียสปอร์ตเพิ่มเติม ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความทรงพลังและรวดเร็ว กำลังสูงสุดของคูเป้รุ่นนี้อยู่ที่ 517 แรงม้า (hp) ที่ 6,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ผงาดเป็นรุ่นที่ดุดันที่สุดของตระกูล C-Class
      ส่วนตัวเลขเบื้องต้นที่ยังไม่เป็นทางการของอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที ส่วน SLS AMG และ SLS AMG Roadster ซึ่งใช้ขุมพลังเดียวกันแต่มีกำลังมากกว่า ทำได้ 3.8 วินาที และ 4 วินาที ตามลำดับ 

เกียร์นวัตกรรม
      มาที่ระบบเกียร์ ใช้ชุดเดียวกับรุ่นพี่ SLS AMG เช่นเดียวกับขุมพลัง เป็นเกียร์ระบบดูอัลคลัตช์ AMG Speedshift MCT 7 สปีด มีอัตราการเปลี่ยนระดับเกียร์รวดเร็ว ส่งกำลังสู่ล้อหลัง โดยเบนซ์ระบุว่าเกียร์ชุดนี้เป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมที่พัฒนาจากรถแข่ง มี 4 โหมดให้เลือกใช้ ประกอบด้วย "C" (Controlled Efficiency), "S" (Sport), "S+" (Sport plus) และ "M" (Manual) รวมทั้งโหมด Race Start สำหรับปรับคุณสมบัติก่อนนำลงประลองความเร็วในสนามแข่ง   โหมดดังกล่าวเลือกด้วยปุ่มหมุน AMG Drive Unit ที่คอนโซลกลางใกล้กับคันเกียร์
 

ช่วงล่างพร้อมแข่ง
      ช่วงล่างเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีจากรถแข่ง เป็นกันสะเทือนชุดก้าวหน้าที่มีความซับซ้อนสูง โดยใช้ชุดคอยล์สปริงปรับระดับได้ของ AMG สามารถใช้ลงชิงชัยในสนามแข่งโดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มเติม   ระบบกันสะเทือนสปอร์ตชุดนี้มีโหมดปรับคุณสมบัติให้สอดรับกับสถานการณ์การขับหลายระดับ โดยเพลาหลังมีระบบเฟืองท้ายชนิด Differential lock ช่วยเสริมการทรงตัวขณะแข่งขัน
      ส่วนระยะล้อหน้าและหลัง เพิ่มความกว้างจากรุ่นมาตรฐาน 40 และ 79 มิลลิเมตร ตามลำดับ พร้อมคานทรงตัวปรับปรุงใหม่ ช่วยเพิ่มระดับความปราดเปรียว การทรงตัว และลดอัตราการโคลงตัวขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง  พวงมาลัยพาวเวอร์ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การควบคุมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 
      ด้านระบบเบรกพัฒนาใหม่เช่นกัน ใช้ดิสก์ที่มีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่ารุ่นมาตรฐาน ขนาดดิสก์หน้า 390x36 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์สีแดง 6 สูบ และดิสก์หลัง 360x26 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์ 4 สูบ  ส่วนชุดล้อ ใช้ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีเทาไทเทเนียม ผลิตด้วยกรรมวิธีเดียวกับล้อของ SLS AMG ขนาดล้อหน้า 9x19 นิ้ว สวมยาง 255/35R19 และล้อหลัง 9.5x19 นิ้ว พร้อมยาง 285/30R19

ขายต้นปีหน้า
       สำหรับอุปกรณ์ให้ความปลอดภัยทั้งชนิดปกป้องและป้องกัน ประกอบด้วย แอร์แบ็ก 5 ชุด เข็มขัดนิรภัยชนิดรั้งกลับอัตโนมัติทุกเบาะ ระบบ ABS ระบบ ESP ชนิด 3 สเตจ  พร้อมระบบไฟหน้าอัตโนมัติ Headlamp Assist ระบบเตือนแรงดันลมยาง และระบบครูสคอนโทรลพร้อมระบบรักษาระดับความเร็วอัตโนมัติ Speedtronic
        ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะตัวที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งนอกจากที่ระบุแล้ว ประกอบด้วยฐานประตูสเตนเลสพร้อมโลโก้ AMG แป้นบังคับสเตนเลสพร้อมปุ่มยาง เครื่องเสียงชนิด 8 ลำโพง พร้อมเครื่องเล่นซีดี 20 แผ่น ระบบ Bluetooth ระบบเชื่อมต่อ USB และระบบควบคุมแอร์คอนดิชั่นอัตโนมัติ Thermatic นอกจากนั้นยังมีแพ็กเกจออพชั่นให้เลือกอีกหลายรายการด้วยกัน
      เบนซ์เปิดตัว New C 63 AMG Coupe Black Series ที่สนามนูร์เบิร์กริง ช่วงก่อนการแข่งขันฟอร์มูล่าวันชิงแชมป์โลก รายการเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ และกำหนดจำหน่ายในตลาดสำคัญของโลกเป็นรถรหัสปี 2012 ในราคาที่เยอรมนีรวมภาษี VAT 19% อยู่ที่ 115,430 ยูโร (ประมาณ 4.99 ล้านบาท)

ข้อมูลเบื้องต้น New C 63 AMG Coupe Black Series
ประเภท                                     คูเป้ 2 ประตู 2 ที่นั่ง
เลย์เอาต์                                  วางเครื่องหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องยนต์                              AMG V8 32 วาล์ว 6.3 ลิตร
ความจุ                                     6208 ซี.ซี.
กระบอกสูบxช่วงชัก              102.2x94.6 มิลลิเมตร
อัตราแรงอัด                           11.3:1
กำลังสูงสุด                             517 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด                          620 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที
เกียร์                                       AMG Speedshift MCT 7 สปีด
0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง        4.2 วินาที
กินน้ำมันเฉลี่ย                       8.2 กิโลเมตร/ลิตร
อัตราปล่อยไอเสีย                286 กรัม/กิโลเมตร
ล้อหน้า/หลัง  อัลลอย          9x19/9.5x19 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง                        255/35R19-285/30R19
เบรกหน้า                              ดิสก์ 390x36 มม. คาลิเปอร์ 6 สูบ
เบรกหลัง                             ดิสก์ 360x26 มิลลิเมตร คาลิเปอร์ 4 สูบ