BenzSociety ศูนย์รวมพลคนรัก Benz

                                  www.benzsociety.com
 
HomeBenz ShoppingBenzSociety ShowBenz Option ClassifiedsWebboardOffice
Import CarsShow RoomCar Service •  Wheels & Tires  •  Car stereoHome/CondoGolf Society Benz TravelEntertainment
          » ที่สุดในโลก » 10 ลำดับ...


  10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก
    [ 6/08/2008 ] - [ 1938 ]
 
10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของฟอร์บ
10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของฟอร์บ

10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของฟอร์บ

 
                     10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของฟอร์บ


นิตยสารฟอร์บ เสนอบทความราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าพระมหากษัตริย์ของไทยมีพระราชทรัพย์มากที่สุดในบรรดา 15 ราชวงศ์ที่อยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์) โดยพระราชทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนี้สืบเนื่องจากความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

 

ลำดับที่ 2 คือ ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน แห่งอาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มีพระราชทัพย์ประมาณ 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ความมั่งคั้งของพระองค์เกิดจากการที่เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันสำรองคิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้นอาบูดาบียังมีชื่อเสียงเนื่องมาจากการลงทุนระดับแนวหน้าโดยบรรษัทที่รัฐเป็นเจ้าของนั่นคือเงินลงทุน 7.5 พันล้านเหรียญฯ ในบริษัท Citibank   

 

จากรายงานของฟอร์บส์นั้น พบว่าพระมหากษัตริย์หลายพระองค์มีพระราชทรัพย์ลดลง เนื่องจากผลกระทบที่ต่างๆ ไป เช่น สุลต่านแห่งบรูไน ซึ่งเป็นกษัตริย์จากเอเชียอีกเพียงประเทศเดียวที่เข้าทำเนียบราชวงศ์ที่รำรวยของฟอร์บ ราชทรัพย์ของสุลต่านแห่งบรูไน (ทรัพย์สิน 20 พันล้านเหรียญฯ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องลดอัตราการผลิตน้ำมันเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันในประเทศบรูไนลดลง โดยฟอร์บระว่า กิจการน้ำมันนั้นเป้นมรดกตกทอดของราชวงศ์บรูไนซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี

 

กษัตริย์โมฮัมมัดที่ 6 แห่งประเทศโมร็อกโก ขณะนี้มีทรัพย์สินรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญฯ เนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชะลออยู่ที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่กล่าวมานั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับ 6 ราชวงศ์จากประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งทำเงินส่วนใหญ่จากการค้าน้ำมัน

 

อันดับที่ 5 ชีค โมฮัมมัด บิน ราชิด อัล มาคทูม แห่งดูไบ ทรงมีพระราชทรัพย์สุทธิ 18 พันล้านเหรียญฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Dubai Holding ซึ่งมีการลงทุนใหญ่ๆ ในหลายบริษัท เช่น โซนี่ และบริษัทผลิตอาวุธ EADS  และเมื่อเร็วๆ นี้กองทุนรวมเพื่อการลงทุนของชีคพระองค์นี้ได้ใช้เงิน 5 พันล้านเหรียญฯ เพื่อถือหุ้นในบริษัท MGM Mirage และ 825 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อกิจการค้าปลีก Barneys New York

 

อันดับ 6เจ้าชายฮันส์ อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ มีพระราชทรัพย์ทรัพย์ประมาณการ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่ LGT Bank ซึ่งเป็นหล่งทุนหลักของพระองค์ (บริหารโดยราชวงศ์มากว่า 70 ปี)ตกเป็นเป้าในคดีหลีกเลี่ยงภาษีอันอื้อฉาว ซึ่งบริษัทของพระองค์ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือลูกค้าฐานะดีหลายรายในการ “ซุกซ่อน” ทรัพย์สิน จากการสืบสวนของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ พบว่าพระอนุชาของพระองค์ (เจ้าชายฟิลิป) มีส่วนเกี่ยวข้องในการนี้ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานของ LGT

 

เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ยังไม่อภิเษกสมรส และถูกร่ำลือว่าทรงส่งแฟนสาวของของพระองค์เข้าเรียนคอร์สติวเข้มภาษาฝรั่งเศส  พระองค์มีพระราชทรัพย์ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญฯ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นส่วนกิจการคาสิโนในโมนาโก  พร้อมทั้งทรงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ของประเทศ (ซึ่งมีขนาดเท่ากับ Central Park ในนิวยอร์ก) โดยการสร้างเขตปกครองใหม่ในทะเลซึ่งจะตั้งอยู่บนเสาขนาดมหึมา โครงการดังกล่าวนี้สร้างความวิตกกังวลแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่พอสมควร

 

กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่ไม่ได้มีมีดินแดนครอบครอง (ในฐานะประมุขแห่งรัฐ) ก็คือ อากาข่าน (ทรงเป็นนักขี่ม้า) ถือเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวมุสลิมอิสไมลิยาห์ (Ismaili Muslims) กว่า 15 ล้านคนที่กระจายอยู่ทั่วโลก มีพระราชทรัพย์สุทธิอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเร็วๆ นี้พระองค์ได้ซื้อหุ้นในบริษัทประมูลม้าที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ

 

พระราชินี 2 พระองค์ที่ติดอยู่มนทำเนียบของฟอร์บ กำลังถูกกล่าวขวัญเกี่ยวกับการสละราชสมบัติ โดยมีข่าวลือว่า พระราชินีบีทริกซ์แห่งเบลเยียม (อันดับที่ 14) จะสละราชบังลังก์เพื่อพระราชโอรส ในขณะที่พระราชินีอลิซาเบธแห่งอังกฤษ (อันดับที่ 12) ทรงวางแผนที่จะคำรงตำแหน่งต่อไป บดบังความหวังของพระราชโอรสอย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่มุ่งจะครองราชบัลลังก์ในระยะเวลาอันใกล้นี้

 

ฟอร์บระบุว่า การประเมิณทรัพย์สินของราชวศ์นั้นต้องใช้ทั้ง ศาตร์และศิลป์ประกอบกันไป เนื่องด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งของบุคคลกับรัฐนั้นมีลักษณะเฉพาะของแตกต่างกันไป

 

ตัวอย่างเช่น  กษัตริย์มัสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ (อันดับที่ 15 ของโลก) เป็นผู้สืบทอด 2 กองทุนรวมที่สร้างขึ้นโดยพระราชบิดาในนามของ Swazi nation ในขณะที่พระองค์ทรงอยู่ในอำนาจนั้นพระองค์มีพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะใช้จ่ายทรัพย์สิน ซึ่งนี่เองทำให้พระองค์ทรงสามารถสร้างพระราชวังสำหรับพระมเหสีแต่ละพระองค์รวม 13 พระองค์ และทรงจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างสุดเหวี่ยงในหลายๆ วโรกาส หนึ่งในนั้นคือการฉลองครบรอบพระชนมายุ 40 พรรษาเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งมีรายงานว่าใช้เงินมูลค่ากว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (85 ล้านบาท)

 

ในประเทศอังกฤษ สินทรัพย์บางอย่างของราชวงศ์ เช่น พระราชวังบักกิ้งแฮม และเครื่องเพชรของราชวงศ์อังกฤษ (the British crown jewels) ให้ถือว่าเป็นของ British nation ไม่ใช่ของพระราชินีอลิซาเบธ ซึ่งสิ่งของที่กล่าวไปนั้นไม่ถูกนับรวมในโภคทรัพย์สุทธิของพระองค์  เพราะที่จริงแล้ว ความมั่งคั่งของพระองค์มาจากทรัพย์สินในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ งานจิตรกรรมและประติมากรรม เครื่องประดับ และแสตมป์สะสมที่รวบรวมโดยพระอัยกา 

 

ฟอร์บระบุว่าได้ติดตามสถานะของราชวงศ์ระดับแนวหน้าจำนวนหนึ่งมาหลายปี (เช่น พระราชินีแห่งอังกฤษ และสุลต่านแห่งบรูไน) แต่การนำเสนอผ่านบทความดังกล่าวเป็นเพียงครั้งที่ 2 ที่เผยแพร่ทำเนียบราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดอย่างละเอียด  แต่สถาบันกษัตริย์ของประเทศอย่างสเปนและญี่ปุ่นกลับพลาดที่จะเข้าร่วมการจัดอันดับไปอย่างน่าเสียดาย

 

15 ราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกซึ่งอยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ ยังคงถือครองความมั่งคั่ง แม้จะมีข้อตั้งแต่การหลีกเลี่ยงภาษี จนกระทั่งการยุบสภาผู้แทนราษฎรในประเทศสวาซิแลนด์และคูเวต โดยที่กลุ่มราชวงศ์เหล่านี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีที่ผ่านมามีพระราชทรัพย์รวมกันประมาณการที่ 95 พันล้านเหรียญฯ

 

ฟอร์บระบุว่า แม้ว่าราชวงศ์ต่างๆ จะถือครองความมั่งคั่ง แต่ก็พบว่าสาเหตุแห่งความมั่งคั่งนั้นหากไม่มาจากมรดกตกทอดก็มาจากพระราชอำนาจซึ่งผูกโยงกับความเป็นชาติและดินแดน และความมั่งคั่งนี้ก็จะกระจายไปในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ นี่เป็นเหตุผลที่การจัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกที่ฟอร์บทำอยู่เป็นประจำไม่นำเอากรณีของราชวงศ์ต่างๆมาจัดอันดับด้วย ไม่ว่าราชวงศ์เหล่านี้จะมีพระราชทรัพย์สุทธิสูงเพียงใดก็ตาม

 

ทั้งนี้ ในช่วงต้นของบทความ ฟอร์บรายงานสถานะของกษัตริย์คเยนทรา แห่งเนปาลว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประชาชนเนปาลได้ลงมติยกเลิกระบอบกษัตริย์ทั้งมีการกดดันให้กษัตริย์เคยนทราย้ายออกจากพระราชวังในกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากพระราชวังดังกล่าวจะถูกใช้ทำพิพิธภันฑ์

 
[ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน ]                          
 


  รายการบทความ
คฤหาสที่แพงที่สุดในโลก.. ..
10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม ..
10 อันดับเรื่องที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ..
10 อันดับสาวเซ็กซี่ที่สุดในโลก ..
10 อันดับนักร้องสาวที่มีรายได้มากที่สุด ..
MISS INTERNATIONAL 2007
ผู้หญิงรวยที่สุดในโลก ..
10 อันดับคนรวยที่สุดในโลก(Bill Gates ตกแล้ว) ..
10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก ..
เอเวอเรสต์ (EVEREST) ขุนเขาสูงที่สุดของโลก ..
10 อันดับผู้หญิงแต่งกายดีสุดของโลกปี 2008 ..
คาสิโนที่ใหญ่ที่สุด ..
เจ้าชายในฝันของสาวๆ 5 อันดับแรก ..
พริตตี้ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ..
ดูทั้งหมด »